Before dying, twice the same .ความผูกพันคนตายแล้วมาเวียนรอบเตียงนอน รอรับคนใกล้ตาย
Before dying, twice the same .
คนตายแล้วมาเวียนรอบเตียงนอน รอคอย
น่าจะมีใครสักคนที่ได้พบเหตุการณ์นี้มาบ้าง แต่รับคนใกล้ตาย นี่มันเห็นถึงสองครั้งติดต่อกัน มากเกินไป ไม่ใช่เรื่องโกหก มิใช่สร้างเรื่องขึ้นมาลอยๆ สมาร์ทโฟนแบบไหนที่คนตายแล้วสื่อสารกับคนใกล้ตาย ลางบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าให้เก็บใจ สงบใจ เตรียมใจสำหรับญาติที่อยู่รอบข้าง เวลาที่เหลืออยู่เริ่มนับถอยหลัง ดูเหมือนแบตเตอรืรี่ของเครื่องไฟฟ้ากำลังหมดอายุและหยุดการผลิตมาทดแทนได้เหมือนของใหม่ อายุไม่อาจจะต่อให้มีพลัง ลักษณะแบบนี้ต้องรู้พื้นฐานของชีวิตแต่เดิมและความผูกพันธ์ของทั้งสองฝ่าย สาเหตุที่คนตายแล้วมารอรับคนป่วยที่เตียงนอนในที่นี้ เป็นไปในทางที่ดี หรือชั่วร้าย
เมื่อเจ็ดปีที่ผ่านมา กำลังสนุกสนานกับการเรียนรู้ชีวิตใกล้ป่าเขา ลำธาร ในแดนไกล ห่างจากเมืองหลวงไปทางใต้ราวพันกิโลเมตร หากมีโทรศัพท์เข้ามาจากเมืองหลวงหลายครั้ง เป็นลางบอกถึงเรื่องสำคัญแน่นอน ไม่อยากจะกลับเข้าเห็นความวุ่นวายในเมือง ยกเว้นฤดูแล้งเท่านั้นที่ต้องกลับบ้าน โทรเข้ามาทำไมหลายครั้งด้วยคิดสังหรณ์ใจ จะโทรติดต่อกลับจากบนเขาสูงในภาคใต้ อาจจะติดขัดด้วยสัญญาณ รีบร้อนลงมาก็โดนตัวทากกัดดูดเลือด จองตั๋วเครื่องบินพร้อมค่าบริการรถส่งไปสนามบิน แต่ก็ถูกทิ้งให้รอคอย รถไม่มารับด้วยสถาณการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ ไม่มีคนร่วมโดยสารไปตามจำนวน จำเป็นต้องใช้รถยนตร์ของเราเอง มันเป็นความลำบากใจ เป็นห่วงคนขับรถยนตร์กลับจากสนามบิน ช่วงค่ำเป็นเวลาอันตราย นั่งเครื่องบินถึงเมืองหลวงนั้นเร็วกว่าที่คนขับรถยนตร์จากสนามบินเข้าเขตป่าเขาในภาคใต้ ระยะทางเพียงร้อยกิโลเมตร
โรงพยาบาลเก่าแก่ ในทางสามแยก ชั้นที่สิบเจ็ด บนถนนเส้นหนึ่งเป็นถนนเริ่มแรกใจกลางเมืองของประเทศที่สร้างขึ้นมาแต่โบราณ ยังมีอนุสรณ์ที่แสดงถึงความเก่าแก่ได้เห็น เป็นตัวอาคารโบราณข้างโรงพยาบาล ซากสิ่งก่อสร้างที่อนุรักษ์สำหรับให้คนรุ่นหลังได้เห็น มันถูกซ่อนเร้นไว้ที่มุมของโรงพยาบาล น้อยคนนักที่จะรู้ว่า โรงพยาบาลนี้มีอายุที่ยาวนาน นอกจากนั้นเป็นคำบอกกล่าวกันทั่ว เมื่อห้าสิบปีที่แล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เข้ามาโรงพยาบาลนี้ โอกาสน้อยมากที่มีชีวิตรอดพ้นความตาย จนได้รับฉายา โรงพยาบาลแห่งความตาย หรือโรงพยาบาลเลือดแดง เสียงบ่นและตำหนิมากมายของญาติผู้ป่วยทุกปาก ออกมาเหมือนกันทั้งหมด แพทย์และพยาบาลไม่สนใจผู้ป่วยเท่าที่ควร ผู้ป่วยจะสิ้นลมหายใจก่อนที่แพทย์จะมาดูอาการ
ขณะที่ยืนในลิฟท์ยกตัวขึ้นจากชั้นพื้นดิน ขึ้นสู่ชั้นที่สิบเจ็ดนั้น นึกถึงภูมิประเทศของโรงพยาบาล ด้านทิศใต้ที่ไม่ห่างเท่าไรนัก สุสานของผู้ไร้ญาติ ขาดมิตรหลายแสนร่างไร้วิญาณทั่วสารทิศมารวมกันในแห่งนี้ ต่อเชื่อมด้วยมีวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่เมื่อใครได้ยินชื่อนี้ ย่อมรู้ว่า วิญญาณของคนตายแล้วได้ออกมาหลอกหลอนคนที่ผ่านบริเวณนี้อยู่เป็นประจำบ่อยครั้ง ด้านทิศตะวันออกห่างจากนี้เท่าๆกับทิศใต้ สุสานของผู้ที่มีญาติค้ำจุ้น เกื้อหนุนของเชื้อสายจีน ผู้มีฐานะดีสามารถส่งร่างไร้วิญญาณรวมกัน โบสถ์คริสต์ และสุสานของคนมุสลิมล้อมรอบพื้นที่ ไม่เลวร้ายไปทั้งหมด ในทิศตะวันตกซึ่งห่างกันไม่ถึงร้อยเมตร แม่น้ำสายสำคัญที่เป็นเสาหลักของประเทศ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
< สิ่งก่อสร้างที่เป็นอนุสรณ์สถานอันเก่าแก่ ข้างโรงพยาบาล
<แม่น้ำสายสำคัญของประเทศ >
สายตาที่มองไปบนชั้นที่สิบเจ็ด เตียงนอนมากกว่ายี่สิบเตียงนอนผู้ป่วย เป็นภาพอาการของผู้ป่วยทุกเตียงนอน มีเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยก้าวหน้าล้ำยุคติดอยู่ทั้งหมดข้างเตียงนอนของผู้ป่วย ดูทันสมัยกว่าเดิม มีพยาบาลดูแลผู้ป่วยจำนวนมาก ไม่เหมือนเดิมในสมัยก่อน
ทุกเตียงของผู้ป่วยมีอาการขั้นสุดท้ายแน่นอน ยกชั้นนี้ชั้นที่สิบเจ็ดให้เป็นเส้นทางสู่การทอดส่งวิญญาณออกจากร่างกาย เหลือเพียงร่างที่ไร้จิต ดูความคล่อง ว่องไวของพยาบาลทุกคน ถือได้ว่ามากประสบการณ์ เห็นเข็มปักที่ลายบนเสื้อของพยาบาล รู้ได้ทันทีว่า ขึ้นชั้นสอบผ่านวิชาชีพพยาบาลมาหลายปีที่ผ่านมา หมวกของพยาบาลมีรวดลายเส้นบ่งบอกถึงความชำนาญในสายงานพยาบาลรักษาคนไข้
เตียงหมายเลขสิบเจ็ดของผู้ป่วยชายอายุหกสิบเจ็ดปี น่าพิศวงที่ลงท้ายด้วยหมายเลข 7 ระหว่างทางผ่านนั้นต้องผ่านห้องพยาบาลซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางรวมการติดต่อในทุกๆด้านของความช่วยเหลือ ลักษณะห้องรวมหลายเตียงมันเป็นข้อดีของระหว่างนายแพทย์ พยาบาล คนป่วยที่มีอาการขั้นสุดท้าย นายแพทย์สามารถบอกได้ว่า คนไข้ที่ป่วยจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนัก สำหรับเตียงหมายเลขที่ 17 นายแพทย์ผู้รับผิดชอบดูแลสามารถกำหนดวันที่ร่างไร้วิญญาณไม่ผิดพลาด มะเร็งในโพลงจมูก และหลอดลมแพร่กระจายเข้าเต็มพื้นที่ ญาติของคนไข้เตียงนี้ก็รู้เช่นกัน เพราะหลานชายของคนไข้มีอาชีพนายแพทย์หลายคน แต่รักษาในโรงพยาบาลที่ห่างไกลกว่านี้
มันไม่น่าแปลกใจ พ่อของคนไข้หมายเลข 17 ก็เสียชีวิตในโรงพยาบาลนี้เช่นกัน แต่ต่างช่วงเวลาที่ห่างกันถึงสี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา สมัยนั้นยังล้าสมัยด้วยเครื่องมือแพทย์และขาดแคลนแพทย์ที่ชำนาญ ความผูกพันธ์ ความใกล้ชิด ระหว่างพ่อกับลูกชายซึ่งเป็นคนไข้นั้นมีน้อย ด้วยต้องทำมาหาเลี้ยงครอบครัวทุกวัน การเลี้ยงดู เอาใจใส่ในช่วงเด็กของคนไข้ มีความผูกพันธ์กับคุณตา คุณยาย และแม่เป็นหลักสำคัญ ตลอดชีวิตมีคุณตาใส่ใจมากที่สุด เนื่องจากเป็นหลานชายหมายเลข 1 ทุกอย่างต้องดูดีแน่นอน ทำให้ผู้ป่วยเตียงที่ญาติเข้าไปเยี่ยมดูอาการ ส่งเสียงเล็กๆ พร้อมกับยกนิ้วชี้ตรงไปที่หน้าต่างรับลมจากภายนอก บอกกล่าวว่า คุณตามาเยี่ยมผู้ป่วย เป็นไปได้หรืออย่างไร คนที่ตายผ่านมาแล้วมากกว่า 130 ปีที่ผ่านมา
สายตาของคนป่วยบนเตียงหมุนรอบเตียง พร้อมเสียงเล็กๆแผ่วเบา บอกว่า คุณตาที่ตายผ่านไปนานแล้ว มาเยี่ยมเยือน น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากญาติผู้มาเฝ้าผู้ป่วยข้างเตียง ด้วยรู้ว่าเวลาของชีวิตเหลือน้อยลงสำหรับการจากไปที่ใกล้จะมาถึง ก่อนเที่ยงคืน ร่างที่ไร้จิตวิญญาณก็แยกขาดจากกัน
หลังจากนั้นถัดมาอีกสองปี ก็เกิดเรื่องราวแบบเดียวกันอีกเช่นกัน น้องสาวของคนไข้หมายเลขที่ 17 อายุ 65 ปี อาการเจ็บป่วยของมะเร็งขั้นสุดท้าย แต่ก็ยังรู้สึกตัวตามปกติ วันสุดท้ายก่อนที่ร่างกายจะไร้จิตวิญญาณ ความผูกพันธ์ตั้งแต่สมัยเด็กของผู้ป่วยจนถึงเติบโต ได้รับการดูแลอย่างดีจากน้าสาวของเธออย่างดี หน้าต่างของโรงพยาบาลในยามค่ำคืนของผู้ป่วยใกล้ตาย คนที่ตายไปแล้วหลายปีผ่านมาเวียนรอบเตียงนอน รอรับคนใกล้ตายอีกครั้ง
คนไข้ใกล้ตายทั้งสองคนได้รับความสุขทางกาย ใจเกือบตลอดชีวิตด้วยทรัพย์สินจากคนที่ตายไปแล้ว ความผูกพันธ์ไม่มีวันสิ้นสุด
No comments:
Post a Comment