Asian Stamp Rare

Friday, 25 May 2012

อาหารไทย อาหารคาว กระหรี่พัฟ (อาหารของว่าง)

                                                         กระหรี่พัฟ 

                                                อาหารไทย อาหารคาว

         ส่วนผสมใส้ไก่ 
                                    1. เนื้อไก่หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ               500 กรัม
                                    2. มันฝรั่งหั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ต้มพอสุก  500   "
                                     3. หอมใหญ่หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ          500  "
                                      4. น้ำมัน                                                    75  "
                                       5. น้ำตาลทราย                                        80  "
                                       6. ซีอิ้วขาว                                                  4 ช้อนโต๊ะ
                                        7. น้ำมันหอย                                              2      "
                                         8. พริไทยป่น                                              2      "
                                         9. ผงกระหรี่อย่างดี                                    2      "
                                        10. แป้งสาลีตราว่าว ไม่ต้องละลายน้ำ    50 กรัม
       วิธีทำ
                           1.นวดผสมแป้งนอก ใช้หัวตีตะขอประมาณสัก 10 นาที
                           2.ตีผสมแป้งใน ใช้หัวตีรูปใบไม้จนส่วนผสมเข้ากันดี
                           3.แบ่งแป้งนอกน้ำหนักสัก 30 กรัม และแป้งใน 20 กรัม รีดแป้งนอกเป็นแผ่น หุ้มแป้งในให้มิด พักไว้สัก 10 นาที  


                           4.รีดแป้งที่เตรียมไว้ออกเป็นแผ่นบางๆ แล้วม้วนเป็นท่อนกลม ทำเช่นนี้จนครบ 2 ครั้ง พักแป้งไว้ 5 นาที ใช้มีดคมๆตัดเป็นสองส่วน วางรอยตัดไว้ที่พื้น รีดออกเป็นแผ่นกลม จะเห็นแป้งเป็นชั้นๆ ให้รอยตัดอยู่ติดกับฝ่ามือ ตักใส้ไก่ที่เตรียมไว้ใส่ในแป้งพอประมาณ พับแป้งปิดใส้ไก่เป็นรูปวงกลม บีบริมให้แน่น แต่งขอบให้ได้รูปครึ่งวงกลม แล้วบิดเกลียวส่วนโค้งให้สวยงาม       



                           5.ทอดกระหรี่พัฟในน้ำมันพืชที่ร้อน ใช้ไฟระดับปานกลาง สุกพอเหลือง ตักสะเด็ดน้ำมัน หรือซับด้วยกระดาษทิชชู สำหรับลดความมันลง 






     วิธีทำใส้ไก่   ผัดหอมใหญ่กับเนยสดจนแห้ง ใส่ไก่ลงผัดตามด้วยมันฝรั่ง ผัดจนไก่สุก ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงทั้งหมด ใส่แป้งผัดจนแห้ง ยกลงจากกะทะพักไว้จนเย็นสนิท เพื่อนำไปบรรจุเป็นใส้ (ใส้ขนมปัง)











     น้ำจิ้ม 
                 
                แตงกวาหั่นชิ้น น้ำส้มสายชู บ้วยเจี่ย พริกแดง หัวหอมเล็กหั่นซอย 







 




หมายเหตุ ต้องการให้กรอบยิ่งขึ้นนำไปอบต่ออีก 10 นาที
                   ทำเพรียงส่วนเดียวนวดด้วยมือ ไม่ต้องนวดด้วยเครื่อง 


สิ่งที่ได้ตามมา 1. ใส้ไก่ภายใน สามารถจะทำอาหารหลักต่อเนื่องได้ นำไปประยุกต์ เป็นไข่ยัดใส่ ปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมบางอย่าง ก็ได้อาหารหลักอีกอย่างหนึ่ง  

Friday, 4 May 2012

หลังจากปี 2558 ยากขึ้นที่จะแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้

                             ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

              มีหลายท่านที่เคยเรียนในมหาวิทยาลัยในภาคใต้ ไม่มีใครที่สามารถให้ข้อมูลของปัญหาความขัดแย้ง เพราะไม่ได้สัมผัสชีวิตจริงแบบมหาภาคของสังคมภายในจังหวักชายแดนใต้ มีบางท่านเข้าใจปัญหา แต่ถึงจะพูดออกไปก็เหมือนไม่มีโยชน์ อาจจะเป็นอันตรายแก่ตัวเองและครอบครัว (ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร)
ผมจะบอกแก่ท่านตามที่ได้มีประสบการณ์ใช้ชีวิตในตำบลหนึ่งของจังหวัดชายแดนใต้ มีหกหมู่บ้าน ในสามหมู่บ้านเป็นไทยพุทธ อีกสามหมู่บ้านเป็นไทยมุสลิม แต่มีความแตกต่างของจำนวนประชากร ไทยมุสลิมจะมีจำนวนมากกว่า พิชคณิตทางสังคมอาชีพในพื้นที่ 

         ตารางข้อมูลประชากรและอาชีพ

                                                 ประชากร     อาชีพ   ข้าราชการ/ เอกชน             ท้องถิ่นเดิม/นอก
           ไทย____พุทธ_____                                         >                                                            >
                    ------มุสลิม------       >                                                 กรีดยาง,ทำสวน,ค้าขาย    >

                 คนไทยพุทธจะมีอาชีพรับราชการเป็นครู ทหาร ตำราจ โรงพยาบาล และอื่นๆ ให้ฟังสำเนียงการพูดภาษาใต้ ผมจะได้ยินชาวนครศรีธรรมราช สงขลาเป็นส่วนใหญ่ 
                 ไทยพุทธดั่งเดิมหรือชาวจีนดั่งเดิมนั้น คงเหลือน้อยมาก ลูกหลานที่สืบทอดได้อพยพไปภาคอื่่นๆ แล้วตั้งคำถามผมว่า ไทยพุทธปัจจุบันมาจากไหนกัน สังเกตุนามสกุลก็รู้แล้ว นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง และบางจังหวัดในภาคอีสาน   

                
หล
 ไทยพุทธกับมุสลิม.............ภาคกลางและภาคเหนือ =  ไม่มีใครอยู่ได้ หรืออยู่น้อยมาก มีแรงต้านจากคนในพื้นที่สูงมาก
               ทำไมจึงต้องยกตัวอย่าง ไทยพุทธและมุสลิมภาคกลางหรือภาคเหนือ จากประสบการณ์จริงที่เห็น ไม่ค่อยจะพบเห็นชายภาคเหนือที่มามีธุรกิจหรือมีภรรยาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ผมเคยเห็นคนในพื้นที่มีภรรยาภาคเหนืออยู่สองคู่ อยู่กันไม่นานก็หนีออกนอกพื้นที่ในช่วงก่อนมีเหตุการณ์ความไม่สงบ ส่วนคนไทยพุทธและมุสลิมที่ถูกส่งมารับราชการหรือใช้ชีวิตที่นี้ ต้องขอย้ายกลับภาคกลางหรือภาคอื่น  สาเหตุที่อยู่ไม่ได้เพราะส่วนลึกของจิตใจของคนในพื้นที่ ยังติดฝังว่า คนไทยพุทธภาคกลางเป็นผู้ออกคำสัง อำนาจ การปกครอง มายังพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ในส่วนของความขัดแย้งระหว่างคนไทยมุสลิมภาคกลางกับคนไทยมุสลิมในพื้นที่ สาเหตุมาจากจิตใจมองว่า ผู้นำศาสนาก็มาจากคนภาคกลาง ย่อมจะไม่สามารถช่วยพวกเขาได้
                 สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจคนในพื้นที่คือ ภูมิอากาศที่มีส่วนทำให้มองคนในพื้นที่มีพฤติกรรม และอุปนิสัยแตกต่างจากภาคอื่น ฤดูฝนของสามจังหวัดชายแดนใต้นอกเขตเมือง จะมีไม่น้อยกว่าเจ็ดเดือน การทำมาหากินจึงลำบาก คุณลองคิดดูว่าพ่อค้าแม่ค้าทุกภาคกลัวฝน หากฝนตกวันใด รายได้ย่อมน้อยลง กรีดยางไม่ได้ แม่ค้าก็ต้องทำใจหรืออาจจะหยุดขาย อาชีพทุกอาชีพที่นี้ต้องรีบกอบโกยเพราะเวลาพวกเขามีน้อยกว่า นอกจากนั้นพื้นที่ทำกินก็มีน้อย ส่วนใหญ่ต้องรับจ้างกรีดยาง บางคนที่เป็นข้าราชการ ก่อนจะไปทำงาน ในรุ่งเช้าจำเป็นต้องไปเก็บยาง ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมา ข้าราชการไร้ประสิทธิภาพ ทำงานให้กับรัฐไปวันหนึ่งๆ บ่ายสองโมงก็ได้เห็นข้าราชการเดินทางกลับเข้าบ้าน
                พฤติกรรมอีกอย่างหนึ่งที่เห็น การพูดอย่างหนึ่งต่อหน้า แต่จะกระทำอีกอย่างลับหลัง ท่านอาจจะเรียนประวัติศาสตร์สงครามการรบระหว่างดินแดนในสามจังหวัดนี้กับหัวเมืองอื่น ความชำนาญในการตีตลบหลังถือว่ายอดเยี่ยมพอสมควร จนเป็นที่เลื่องลือไปถึงแดนกรุงเก่า
                อย่างที่สอง การพูดหรือให้ข่าวสารบางอย่าง มักจะเกินความจริง พูดเกินและเลยเถิด มีการให้ข่าวว่าคนไทยพุทธที่กรีดยางวันศุกร์ถูกตัดหู ตัดคอ มีคนไทยมุสลิมทำตัวเหมือนนินจา ลูกสาว ลูกชายของคนในหมู่บ้านได้รับราชการ รับเงินเดือนละแปดหมื่น
                พฤติกรรมอย่างที่สาม ได้กินคืบ ต่อไปก็กินศอกและกินวาตามมา พี่น้องเครือญาติก็ไม่ละเว้น ท่านอาจจะเห็นวัดและมัสยิดมากมาย แต่ความเป็นจริง เรื่องของศีล ข้อห้ามต่างๆ กลับไม่ทำกันทั้งสองศาสนา การทะเลาะในเรืองทำกิน ผิดใจก็ฆ่ากันเอง ถ้าใครได้โกงเพื่อนได้ถือว่าเองเก่ง เองแน่ สังคมในทีนี้ส่วนใหญ่ยอมรับคำพูดนี้
                อย่างที่สี ชอบต่อต้านรับหลัง แล้วยังต่อต้านแบบไม่มีเหตุผล รัฐพยายามจะให้คนในท้องถิ่นพูดและเข้าใจภาษาท้องถิ่นให้ได้ ทุกคนในที่ประชุมองค์กรบริหารส่วนตำบลเห็นชอบ แต่ออกจากที่ประชุมลับหลัง พูดขึ้นว่า ที่นี้ประเทศไทย ต้องใช้ภาษาไทย ท่านลองคิดดู ถ้าหากท่านเดินไปตลาดนัดในชุมชน เก้าสิบห้าคนใช้ภาษายาวี อีกห้าคนพูดภาษาใต้ คงจะนึกภาพที่ผมเล่าในสิ่งที่เห็น ผู้ค้าไทยพุทธตั้งแผงขายฝั่งหนึ่งที่ห่างออกไปเกือบสุด ยิ่งเป็นร้านขายหมูต้องไปอยู่สุดท้ายตลาด การต่อต้านของคนในท้องถิ่นพูดไม่เข้าหูผม เพราะเคยเห็นร่างหนังสือราชการที่ออกมาจากปลัดฯ ทั้งไทยพุทธและมุสลิม เขียนหนังสือราชการไม่เข้าใจ ภาษาไทยบางคำก็พิมพ์ผิดพลาด

 ประชากรในสามจังหวัดฯ---------ภูมิอากาศ-------พฤติกรรม---------ภาษา

               ระบบเศรษฐกิจของสามจังหวัดชายแดนใต้ นอกเขตเมือง ตลาดนัดเริ่มเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2542 แม่ค้าพ่อค้าส่วนใหญ่เป็นคนมุสลิม แม่ค้าไทยพุทธจะค่อนข้างน้อยมาก ผมเห็นแล้วเศร้าใจ ขายไม่คุ้มกับค่าเดินทางและค่าหัวตลาด แม่ค้าไทยพุทธจะขายได้ดีเฉพาะสินค้าที่ชาวบ้านจำเป็นต้องใช้ หากพ่อค้าไทยมุสลิมนำสินค้าแบบเดียวกับที่แม่ค้าไทยพุทธนำมาขายภายหลัง รายการนี้ก็ต้องหาตลาดที่อื่นๆ ตลาดนัดดังกล่าวขายได้ยาก การแบ่งแยกภาษาพูดและศาสนาเป็นอุปสรรคกับวงการค้าขายอย่างเห็นได้ชัด เล่ห์เหลี่ยมทางการค้าคนไทยพุทธยังห่างกันไกล ยกตัวอย่าง สินค้าแบบเดียวกัน พ่อค้ามุสลิมจะขายถูกกว่าพ่อค้าไทยพุทธ สาเหตุมาจากการโกงตาชั่งบ้าง เอาสินค้าเล็กใหญ่ผสมกันบ้าง สารพันเทคนิคกดราคา คนในพื้นที่จะยึดถือเพียงให้สินค้านั้นถูกที่สุด โดยไม่คำนึงอย่างอื่น  ที่น่าเห็นใจอย่างมาก ก็เห็นจะเป็นเกษตรกร พ่อค้าย่อยมัดจำสินค้า หากราคาตกต่ำ ก็ทำการทิ้งสินค้าดังกล่าว
สินค้าจากภายนอก เท่าที่ผมเห็น เป็นสินค้าที่หมดคุณภาพ หมดอายุจะถูกนำมาขายในราคาถูก  นมกระป๋อง ไข่ไก่ ไข่เป็ด สินค้าอีกหลายชนิด ขนส่งด้วยรถขนาดใหญ่ ทะยอยเข้ามาตลาดในเมือง  จะมีพ่อค้าย่อยมารับซื้อ โดยได้รับเครดิต ชำระเงินภายหลังได้ เพราะมีนายทุนเหมายอดเงินไว้เรียบร้อย มีคนอาจจะตั้งคำถามขึ้น แล้วจะอยู่กินกันอย่างไร จะมีเงินเหลือใช้ เหลือเก็บไว้ยามฉุกเฉินได้อย่างไร แต่ที่ผมเห็นธุรกิจบางอย่างจากภายนอก ได้รับการผูกขาด ในหลายพื้นที่มีไว้ให้กับคนไทยพุทธ สิ่งนี้อาจจะทำให้เป็นข้อขัดแย้งประการหนึ่ง หรืออาจจะมีการค้าที่มีการผูกขาดที่มีไว้ให้อีก ซึ่งผมไม่อาจจะบอกได้  ความขัดแย้งจากการผูกขาดทางการค้ามีหลายอย่าง ไทยมุสลิมก็มีระบบการผูกขาดทางการค้าเหมือนกัน เพราะถือว่า ประชากรของตนมีมากกว่า
               สินค้าจากภายนอกที่มาจากต่างประเทศ สินค้าปัจจุบันนี้ มักจะมาจากภาคต่างๆ ของประเทศไทย มันผิดปกติไม่เหมือนเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว สินค้าจากต่างประเทศเข้ามาทางด่านไทย มาเลเซีย มีของกิน ถ้วยชาม เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตจากเมืองจีนจำนวนมา แต่ปัจจุบันมีน้อยลง แต่ก่อนชาวไทยภาคกลางนิยมมาเที่ยวซื้อของตามด่าน  ต่อมาสินค้าดังกล่าววิ่งเข้าทางภาคกลางอย่างสะดวก เหล้าสุรานอก บุหรี่ ขนกันจำนวนมาก ต่อมาก็ลดลง ผมกำลังคิดว่าในอีกสามปีข้างหน้า สินค้าจากมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จะต้องเข้ามาแทนที่ ขาดไม่ได้ที่ละไว้ไม่ได้ คือ น้ำมัน เป็นสินค้าราคาถูกจากภายนอก ผู้ค้าขายจะรู้ว่าส่วนมากใช้น้ำมันจากภายนอก
               ปัญหาพ่อค้าต่างแดน มีพ่อค้าต่างแดนเข้าไปรับซื้้อผลผลิตถูกฆ่าตาย เกิดจากการผูกขาดสินค้าหรือมีนักการเมืองท้องถินดำเนินธุรกิจอยู่ พ่อค้าต่างแดนให้ราคาสูงกว่าราคาภายใน โดยที่พ่อค้าต่างแดนไม่ทราบเรื่อง การจะเข้าไปค้าขาย จำเป็นต้องมีคนภายในรับผลประโยชน์ร่วมด้วย หรือที่เรียกว่านายหน้าเก็บหัวคิว การผูกขาดมีค่อนข้างมาก
               ปัญหาการเมือง เริ่มมี ปัญหาความขัดแย้งมากขึ้น พื้นฐานเบื้องล่างจากการเลือกตั้งภายในท้องถิ่น ยังอาศัยเครือญาติลากไปลากมา ใครมีญาติพี่น้องจำนวนมากก็มักจะได้ชัยชนะ แต่จะพ่ายแพ้หากเครือญาติส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลประโยชน์ บางครั้งทำให้การเลือกตั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านครั้งต่อไปหมดสภาพหรือที่เรียกกันวงในว่า ไม่มีสิทธิเกิดอีกเลย ยกตัวอย่างให้เป็นรูปธรรม รัฐมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีสวนลองกอง โดยการรับซื้อจากภาครัฐ แต่ผู้นำชาวบ้านเก็บเรื่องไว้ไม่บอกชาวบ้านส่วนใหญ่ หรือบอกในเวลากระทันหัน ไม่ได้มีการเตรียมตัว มีการบอกกล่าวเฉพาะฐานเสียงเท่านั้น ขณะนี้ความขัดแย้งที่เป็นปัญหาอย่างมาก คือความแตกแยก แบ่งก๊ก ภายในเสียงเครือญาติเพื่อจะได้เป็น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ตัวแทนขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)
               มีบางท่านอาจจะตั้งคำถามว่า มีข่าวสารออกมาบ่อย ทำไม ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ผู้ช่วยฯในตำแหน่ง ถูกยิงตายเป็นจำนวนมาก  ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ได้ก็มี เพราะมาจากการรู้จักแบ่งปันผลประโยชน์ ที่ได้ ไม่มีความโลภมาก รู้ให้เหตุให้ผลกับชาวบ้าน ชีวิตและทรัพย์สินครอบครัวของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็จะยืนยาว หากไม่มีความลำเอียงเข้าฝ่ายใดมากจนผิดสังเกตุ อาวุธปืนไม่จำเป็นที่กำนัน ผูใหญ่บ้านต้องพกพาไปที่ไหน หากสามารถชนะใจชาวบ้าน ชนะใจคนของรัฐ และชนะใจภาคเอกชน ในส่วนของตัวแทน อบต. ถ้าหากไม่ขัดผลประโยชน์กับการประมูลงาน ก็ไม่มีปัญหา ที่เห็นชัดตัวแทนของ อบต.มักจะเป็นผู้รับงานเสียเองจากโครงการที่เสนอ เช่นซ่อมแซมถนน โครงการต่างๆจากหนึ่งตำบล โอกาสที่ตัวแทนหรือนายก อบต.ก้าวขึ้นมารับผลตอบแทนที่สูงเหมือนที่อื่น คงจะเป็นไปได้ยาก เพราะคนในพื้นที่ต่อต้านการลงทุนใหม่ๆจากคนภายนอกค่อนข้างสูง
               ปัญหาสิทธิพิเศษของคนในสามจังหวัดชายแดนใต้ คนไทยมุสลิมในภาคกลางไม่มีสิทธิพิเศษทางการศึกษา การสอบเข้าเหมือนบุคคลอื่นๆ สอบเข้าทำงานต้องแข็งกับคนจำนวนมากเท่าเทียมกัน ไม่มีการผูกขาดในโควต้าทางการค้าบางอย่างจากภาครัฐ มันแตกต่างกับคนไทยหมู่น้อยที่อยู่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ราวกับฟ้าและดิน เพียงแค่สามข้อข้างต้นจากสิทธิพิเศษที่ได้รับ กำลังเป็นปัญหาในอนาคตอีกสามปีข้างหน้าเมื่อมีการรวมประเทศเป็นอาเซียน ผู้คนในอาเซียน 600 ล้านคน ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งของประชากรอาเซียนจะอยู่ในภาคใต้ มีภาษากลางในการติดต่อสื่อสาร มีเทคโนโลยี่ การศึกษาและอื่นๆที่ดีกว่า การปิดกั้น ปิดตาจากภาครัฐของประเทศไทยหรือนักการเมืองในปัจจุบันไม่อาจจะต้านทานแรงกระทบอันนี้ได้ สิทธิพิเศษของคนในพื้นที่ที่ได้รับกลับผลิกเป็นจุดด้อยคุณภาพของประชากร  รัฐของประเทศไทยไม่มีทางที่จะช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยในภาคใต้เหมือนแบบสมัยก่อนๆอีกแล้ว เนื่องจากทุกระบบกลไกต่างๆเดินอย่างรวดเร็ว โปร่งใสขึ้น
              ปัญหาความขัดแย้งทางศาสนา ความขัดแย้ง ความต่างกันในประชากรของมุสลิมในอาเซี่ยนมีความหลากหลาย รัฐบาลมีความเข้าใจมุสลิมกลุ่มซาฟีอี ซึ่งอาศัยในส่วนกลาง แต่ลึกๆของชาวมุสลิมแตกแยกออกมาอีกมากมาย มีที่เรียกกันว่า คณะใหม่ คณะเก่า คณะของชีอะอ์ สุนีย์ ในกลุ่มอาเซี่ยนมีการแบ่งแยก แตกสาขาที่มากกว่าในประเทศไทยนี้หลายสาขา แต่ละกลุ่มในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และในออสเตรเลีย สามารถจะชี้ทิศทางของรัฐบาลของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษา ธุรกิจ สังคม การเมือง เพราะกลุ่มเหล่านี้มีทุนที่มหาศาล มีผู้คนสนับสนุนความเชื่อถือหลายล้านคน
              มีหลายครั้งที่ภาครัฐไม่เข้าใจคนมุสลิมของแต่ละกลุ่ม สาขา คิดเหมารวมว่ามุสลิมเหมือนกันทั้งหมด ล่าสุดผมได้เห็นกับตาตัวเอง มีการแต่งกายแบบชาวอียิปต์ สอบถามเครือญาติ ได้ความว่า มีหลายคนจบการศึกษาจากที่นั้น แล้วได้มีการแพร่กระจายออกไป เริ่มทำให้มีความคิดทันที รัฐบาลประเทศเรากำลังเดินอยู่บนความล่าช้า ล้าสมัย ไม่ยอมรับข้อมูลของคนในพื้นที่ ย่อมจะเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งในสามจังหวัดชายแดนใต้ ข้อมูลที่รัฐได้มามันผิดพลาดหลายอย่าง แต่ถ้าหากรัฐเห็นข้อมูลในทางที่ถูก แต่มันก็สายเกินไป
                   
          

                    

Monday, 30 April 2012

กริชมัสซูรี ตอน ปานดำรูปหัวใจ

กริชมัสซูหรี


   ตอน ปานดำรูปหัวใจ 
          ปานสีดำรูปหัวใจมันสีเข้มขึ้นอย่างผิดปกติ ในวันที่เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งมาเรียกให้ไปกินข้าวที่เรือนรับรองของเหล่าเพื่อนหญิงฝึกงาน ผมบอกเธอว่า ขอโทษด้วยที่ตื่นนอนสาย ขออาบน้ำก่อน มันดูแปลกมาก ผมไม่เคยสนใจกับปานรูปหัวใจ ช่วงจะดึงน้ำขึ้นจากบ่อลึกใต้ดินเพื่อนำมาลาดตัว สังเกตุเห็น ปานรูปหัวใจสีเข้มดำออกสีแดง
           เธอเป็นใคร บ้านเกิดเมืองนอนอยู่แห่งหนใดกันเล่า สามปีที่ผ่านมาแทบจะไม่ค่อยจะเคยเห็นเพื่อนผู้หญิงคนนี้มาก่อน จะผ่านตาเราสักครั้งก็หาไม่ เพื่อนของเธอบอกผมว่า เพื่อนคนนี้ไม่เคยออกมาจากหอพักโดยไม่จำเป็น ลักษณะเป็นสาวปักษ์ใต้ที่เรียบร้อยในกิริยา มารยาท เรียนเก่ง ทำกับข้าวก็ฝีมือดี ผมพยายามดูแววตาของเจ้าหล่อนด้วยความสงสัยและเริ่มสนใจมากขึ้น จนเพื่อนหญิงทั้งหกคนเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเราทั้งสองคน กับข้าวที่ทำออกมาจะไม่เผ็ดเพราะเธออ่านใจผมออก นอกจากนี้เธอยังรู้ว่า ผมไม่ค่อยจะสบาย แต่จะไม่แสดงให้ผู้อื่นได้รู้ 
           ความคิดเริ่มขัดแย้งกับคำบอกเล่าของพี่และผู้ใหญ่ในกรุงเทพฯที่ว่า สาวปักษ์ใต้แข็งกระด้าง กริยามารยาทไม่เรียบร้อย อย่าได้คิดผูกใจ รักใคร่ วันนี้ผมต้องคิดใหม่เพราะเห็นมาด้วยตาตนเอง สาวปักษ์ใต้ถึงแม้จะไม่สวย ไม่ได้ร่ำรวย ไม่มีฐานะทางสังคม เธอเป็นผู้หญิงชาวบ้านที่ดูน่ารักกว่าผู้หญิงอื่นที่สวยงาม การบ้านการเรือนก็ไม่ละเว้น  
          มันเป็นความเลว และความร้ายมากกว่าสำหรับตัวผมที่มีปานรูปหัวใจ แต่หลายคนของเครือญาติในเชื้อสาย พุทธ มุสลิม จีน(จีนบ่าบ๋า)    และอื่นๆมองว่าเป็นสิ่งที่ดี ผมคนเดียวที่ญาติทางไกลรู้จักผมทุกคน ยามใดที่มีงานทำบุญในที่แห่งหนใด พ่อและแม่จะต้องอุ้มผม เจ้าเด็กคนที่เก้าไปด้วยในทุกงาน แต่ตัวเองไม่สามารถจดจำญาติได้เพราะมีกันหลายฝ่ายหลายมุมเมือง น่ารำคาญและน่าเบื่อที่เป็นตัวตลกจนต้องถามแม่และพ่อ ทำไมหนอ ก็เพราะตอนเด็กนั้นจะเห็นปานดำรูปหัวใจเด่นชัดก่อนที่จะเห็นเจ้าเด็กน้อยคนที่เก้า  หลังจากนั้นแม่ก็เล่านิยายเก่าแก่เรื่องหนึ่งเป็นภาษาไทย โดยมีคุณตาและคุณยายเล่านิยายเก่าเรื่องนี้เป็นภาษาอังกฤษอยู่ด้านหลังของแม่ บางคนอาจจะไม่เข้าใจ รวมทั้งตัวผมเอง คุณตาและคุณยายถึงสามารถพูดภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษามาลายูกลาง(บาฮาช)ได้อย่างคล่องแคล้ว ผมเริ่มรู้และเข้าใจวันที่คนที่ผมรักมาจากหัวเมืองหาดใหญ่มาถึงกรุงเทพฯ แม่เลี้ยงและพี่หลายคนพบกับผมในห้องกินข้าว น้ำเสียงแม่เลี้ยงพูดด้วยอ่อนโยน ถ้าผมอยากจะกลับไปดินแดนของวงศ์ตระกูลแต่เก่าก่อนเพราะรักมากกับสาวปักษ์ใต้ที่ไม่ใช่เครือญาติ พรุ่งนี้เช้าไปขอจดหมายเก่าของเมืองปักษ์ใต้จากน้าสาวเล็ก ในจดหมายบอกไว้ให้กลับไปรับส่วนแบ่งทรัพย์สิน ที่ดิน แต่คุณตาสั่งไว้ว่า ห้ามไม่ให้ใครกลับไปใช้ชีวิตที่ปักษ์ใต้เพราะไม่มีความปลอดภัย หากมีสมบัติ ทรัพย์สินมาก ย่อมจะมีชีวิตสั้นลง    
          ใครก็ตามที่ไม่ใช่เชื้้้อสายเดียวกัน มักจะอยู่ด้วยกันแบบทุกข์ทรมาน  คำสาบของพระนางมัสซูหรี น้องชายของพระราชาในประเทศมาเลเซีย ทรงเป็นที่รักยิ่งของของพระราชาและคนทั่วไป เพราะคอยช่วยเหลือพระราชาในเรื่องสำคัญมากมาย เมื่อถึงเวลาอภิเษกสมรส จะต้องแต่งงานกับคนในเชื้อสายเดียวกันหรือใกล้เคียง มันเป็นประเพณีสืบทอดกันมา แต่ถ้าคู่สมรสไม่มีบุตรเป็นชาย ก็ไม่สามารถขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นพระนางประไหมสุหรี พระนางมัสซูหรีเป็นพระชายาที่มีบุตรเป็นชาย มีสิทธิขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นพระนางประไหมสุหรีแทนอย่างแน่นอน อีกทั้งน้องชายพระราชาก็โปรดปรานพระนางมัสซูหรีอย่างมาก เพราะเป็นสตรีที่น่ารัก การบ้านการเรือนเรียบร้อย กริยามารยาทดีงาม มีความฉลาด แต่พระนางมาจากแดนไกล ไม่มีญาติพี่น้องคอยช่วยเหลือ  พระนางถูกใส่ร้าย ป้ายสีจากเครือญาติของพระนางประไหมสุหรี ในที่สุดพระนางมัทซูหรีก็ต้องจบชีวิตลงในดินแดนแห่งนั้น ตอนหนึ่งของนิยายที่แม่บังเกิดเกล้าเล่าให้ผมฟังอยู่หลายครั้ง ผมนึกเรื่องตอนนี้ได้ช่วงพี่ที่แสนดี ชักชวนให้ไปผักผ่อนที่จังหวัดสระบุรี ทำให้ผมตัดสินใจเก็บความรักของเราทั้งสองไว้ในความทรงจำ เพราะกลัวว่า สาวปักษ์ใต้คนที่ผมรักต้องต่อสู้กับพวกเครือญาติ และพี่ๆไม่ได้แน่นอน 
           ความทรงจำของผมยังไม่เคยลืมเลือนตลอดสามสิบห้าปีที่ผ่านมา แววตา สายตาที่จริงใจ กริยามารยาทที่อ่อนน้อม งานบ้านงานเรือนที่เรียบร้อยของสาวปักษ์ใต้แห่งเมืองหาดใหญ่ จำเป็นที่ต้องเก็บเธอไว้ในดวงใจ ไม่อยากให้เรื่องนิยายของพระนางมัสซูหรีที่แม่บังเกิดกล้าเล่าให้ฟัง มันต้องมาเริ่มต้นซ้ำรอยเดิมอีกครั้งหนึ่ง การตัดสินใจ ทำใจสละความรักครั้งนี้ ผมได้รับเวรรับกรรมหลายเรื่อง อันเป็นเหตุการถึงชีวิตทั้งนั้น ครั้งแรกหลังจากสามวันต่อมา แทบจะถูกรถสิบล้อใหญ่พุ่งชนที่สระบุรี ท่าเรือ อยุธยา ครั้งที่สองสามสัปดาห์ให้หลัง ผมระหว่างทีขับรถไปพักผ่อนที่สระบุรี ช่วงอยุธยา ไทรน้อย เส้นยาแดงผ่าแปด รถของผมขับแซงรถบัส โดยรถของผมอยู่ตรงกลางแบบพอดีแค่ผ่าน ทุกคนที่อยู่ในรถบัสทั้งสองยกนิ้วให้ผม รอดตายแบบเฉียดตาย ครั้งที่สามเป็นเหตุการณ์ต้นไม้ขวางทางที่ผ่านนาทวี สงขลา เป็นครั้งที่ผมเริ่มคิดถึงคำเตือนของแม่ ช่วงสมัยเรียนมัธยมต้น สักว้นหนึ่ง ถ้าเจ้าเข้าใจความรักที่แท้จริงกับผู้หญิงซึ่งรักเจ้า แต่หากผู้หญิงนั้นช้ำใจเพราะด้วยตัวเจ้า เวรกรรมจะสนองตอบตัวเจ้าเองจนเอาชีวิตไม่รอด      
          ผู้หญิงคนใดกันที่สลักปานดำรูปหัวใจไว้ที่ตัวผม 

Sunday, 29 January 2012

กริชมัสซูหรี ตอน

กริชมัสซูหรี 
ตอน   ถอดร่างเงาทางขวามือ


          ไม่เคยคิดที่จะเดินทางผ่านเลยอำเภอหาดใหญ่ สงขลา ทุกครั้งที่ผ่าน มันทรมานจิตใจตัวเอง คนที่เรารักมากและห่วงใย หลังจากจบการศึกษาคนรักของผมเป็นคนเมืองนี้ เธอเป็นสตรีปักษ์ใต้ที่เรียบร้อย ไม่หรูหรา ทำกับข้าวเก่ง การศึกษาดี แต่ด้วยผู้ใหญ่ฝ่ายผมต้องการคนในเชื้อสายเดียวกัน ไม่เหมือนกับสตรีลูกครึ่งปักษ์ใต้ ซึ่งกำลังนั่งรถยนตร์กับผม การศึกษาน้อย การบ้านการเรือนไม่เก่ง แต่สืบเชื้อสายคนไทยแท้ในกลันตันร่วมสองร้อยปีใกล้เคียงกับผม เราสองคนขับรถยนตร์ทางไกลหนึ่งพันกิโลเมตร เพื่อไปหาพ่อและแม่ ตามการวางแผนของฝ่ายหญิง เมื่อผ่านเมืองนาทวีสักพักหนึ่งใกล้จะค่ำ ขณะที่ทั้งสองกำลังดีใจใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง ก่อนจะขึ้นเขตเชิงเขา ผมเห็นขอนไม้ใหญ่ขวางถนนข้างหน้า จึงตัดสินใจหักพวงมาลัยรถยนตร์เบี่ยงรถเข้าขางทางขวา หลังจากนั้นก็หักพวงมาลัยรถเข้าไปอยู่บนถนนเหมือนเดิมด้วยความเร็ว โชคดีที่สมัยนั้นรถยนตร์มีวิ่งน้อยมาก หากเป็นช่วงนี้ที่มียวดยานมาก ทั้งสองคนไม่น่าจะมีชีวิตรอดเพราะการเบี่ยงขวานั้นจะถูกรถสวนไปมา ทั้งสองคนเงียบสนิท ผมได้ภาวนาตั้งแต่ต้นก่อนออกเดินทางไว้ว่า ดวงวิญญาณ บรรพบุรุษเมืองปักษ์ใต้ของผมเมื่อสองร้อยปีที่แล้ว ช่วยคุ้มครอง 
          การเดินทางด้วยรถยนตร์มาปักษ์ใต้ ระหว่างผมซึ่งเคยเรียนที่นี่ กับผู้หญิงที่ไม่ค่อยจะมาอยู่ที่นี้ เธอเรียนอนุบาลที่กรุงเทพฯจนถึงเติบใหญ่เพราะดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยปัญหา พี่ๆของเธอทุกคนที่ต้องมาอยู่ที่กรุงเทพฯตั้งแต่เด็กเช่นกัน มีญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงหลายคนทำงานที่ส่วนกลางในกรุงเทพฯต้องการให้ผมไปทำพิธีถอดร่างเงาของผู้หญิงที่ยืนอยู่ขวามือของผม โดยที่ตัวผมไม่รู้เรื่องพีธีนี้มาก่อนหน้า ใครกันหนอที่เดินเคียงข้างผม เพื่อนๆที่ทำงานก็มักจะคิดว่าผมเดินกับภรรยา ทั้งที่ผมยังเป็นคนโสดและเดินอยู่คนเดียว  
          ค่ำของวันนั้นในปี พ.ศ.2528 ญาติของฝ่ายหญิงจำนวนมาก มารอต้อนรับด้วยความดีใจ ผสมกับความกังวลใจเมื่อได้ทราบเรื่องขอนไม้ขวางทางบนถนน ผมไม่กล้าเบี่ยงรถไปทางซ้ายเพราะช่องทางถูกเปิดกว้างมาก อาจจะเป็นกับดักหรือมีอะไรบางอย่าง สองวันต่อมาในตอนค่ำหลังจากเดินทางมาถึงดินแดนที่อดีต เป็นที่มีชื่อเสียงทางการค้ามายาวนาน มีประวัติศาสตร์ ภาษา วัฒนธรรมเป็นของตนเอง ผมถูกนำไปที่วัดซึ่งเงียบสงบ ภายในป่าลึก ยังจำได้ว่าสองค่ำคืนนั้นเข้าพบผู้รักษาศีลชื่อดังมากกว่าสี่รูป สายตาของผู้รักษาศีลแต่ละรูปมองผมไม่นาน ก็ลับตา แต่ละรูปและต่างวัดในป่าลึกกล่าวกับผู้มีอิทธิพลในกลุ่มเครือญาติฝ่ายหญิงว่าอยู่คู่กันได้ไม่มีปัญหา แผ่นดินนี้ก็ของเอง แต่โรคประจำตัวมันแก้ไขยาก ต้องใช้เวลานานและต้องแก้ไขด้วยตัวเอง  
          วันเดินทางกลับผมได้รู้เรื่องจากเจ้าอาวาสรูปหนึ่ง ท่านเดินจากวัดแต่เช้าตีห้า และยืนอยู่ข้างรถยนตร์ที่ผมเตรียมจะออกเดินทางเข้ากรุงเทพฯ  ผมตั้งใจจะไปลาหลวงตาก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่หลวงตาต้องลำบากมาหาผมก่อน หลวงตาบอกให้ผมทำบุญทำทาน ไม่ต้องคำนึงว่าศาสนาใด แวะข้างหน้ามีมัสยิดเก่าโบราณ คนที่ยืนอยู่ข้างขวา ข้างซ้าย จะได้สบายใจ ต้องมีสักวันหนึ่งที่ผู้หญิงทางซ้ายมือได้เห็นเงาของผู้หญิงอีกคนทางขวามือ ผมยืนงงๆอยู่พักหนึ่ง ท่านอวยพรให้เดินทางปลอดภัย ค่อยพบและคุยกันที่กรุงเทพฯ รีบเดินทางได้แล้ว
             พิธีหมั้นของผมมีสองวัน งานแต่งงานสามวัน ผมถามแม่ใหญ่ว่า ทำไมผมต้องจัดงานแบบนี้ ต้องใช้เงินมากมาย สิ้นเปลืองเกินไป คนอื่นๆไม่ทำกัน เงินที่ผมมีอยู่ถูกบังคับให้นำไปซื้อที่ดินที่สุราษฯ และรังสิต ยังต้องส่งบ้านหลังเล็กๆ ที่บางกะปิ  ผมน่าจะแต่งงานกับผู้หญิงชาวบ้านธรรมดาที่หาดใหญ่ตั้งแต่แรกหรืออยู่แบบคนโสดเหมือนพี่หลายคน พิธีหมั้นวันแรก จัดที่บ้านฝั่งธนบุรี จรัญสนิทวงศ์ เลี้ยงข้าราชการสายเครือญาติฝ่ายปักษ์ใต้และกรุงเทพฯโดยเฉพาะเจาะจง ต่างฝ่ายคุยกันดี แต่ส่วนลึกของฝ่ายกรุงเทพฯมองว่า ค่าสินสอดทองมั่นและเครื่องเพชรสูงเกินไป ถ้าผมรับราชการคงจะใช้หนี้ในอนาคตไปอีกนาน แต่ถ้าจะเอาสมบัติเก่าก็พอจะสู้ ผมตัดใจไม่นำมันออกมาใช้เด็ดขาด  พิธีหมั้นวันที่สอง จัดที่บ้านเก่าสาธรของแม่ใหญ่ เป็นงานหมั้นที่มีความหมายมาก ระหว่างเครือญาติสามฝ่ายที่ตกลงกันไว้นานแล้ว เครือญาติเชื้อสายจีนและสายปาทานที่หมายหมั่นลูกสาวไว้กับผม เธอทั้งสองได้เป็นอิสระเพราะผมได้เลือกเครือญาติสายทางไกล ผมกอดหญิงสาวสองคนเชื้อสายจีนและปาทานในวันงานเลี้ยง ทั้งสองคนเปรียบเสมือนน้องสาว เพราะเห็นกันมาตั้งแต่เด็กจนเติบใหญ่ พบกับผมครั้งใดก็กอดกัน มันเป็นประเพณีของบ้านหลังนี้ ทั้งสองสาวรับราชการ อนาคตไปได้ไกลแน่นอน เพราะเบื้องหลังที่บ้านมีธุรกิจเสริมเพื่อป้องกันอีกชั้นหนึ่ง ศึกสงครามระหว่างผู้ใหญ่สายกรุงเทพฯไม่ค่อยจะยินยอมหรือเลิกลาในงานหมั้นเท่าไรนัก พี่สาวของผมหลายคนรวมถึงพี่สะไภ้อยูในงานกันครบ เพราะเดาเรื่องที่จะเกิดได้ ต้องมีรายการพิเศษแน่นอน ทั้งหมดของพี่ๆคอยคุมกัน และกองหนุนช่วยคู่หมั้นสาวลูกครึ่งปักษ์ใต้จากการตำนิ เสียดสีของญาติผู้ใหญ่สองฝ่ายสองก๊กในกรุงเทพฯ หลังจากแขกในงานกลับไปแล้ว วงล้อมของพี่ๆหลายคนและพี่สะไภ้สนทนากับคู่หมั้นสาวด้วยน้ำเสียงและท่าทางเหมือนนักมวยพร้อมด้วยเสียงหัวเราะของคนทั้งกลุ่ม 
          วันรุ่งขึ้นพี่สาวเล่าให้ฟังถึงศึกรบทางปากระหว่างกลุ่มพี่ๆ กับสองก๊กสองฝ่ายเครือญาติ โดยมีคู่หมั่นสาวลูกครึ่งปักษ์ใต้เป็นคนกลาง สองฝ่ายฝั่งกรุงเทพฯกล่าวหาว่า ทางเขาขอผมไว้ตั้งแต่ยังเด็ก สามคนวิ่งเล่นน่ารัก โตขึ้นจะได้ผูกมัด ฝ่ายปักษ์ใต้เล่นของขลัง เล่นมนต์ตรา มาชุบมือเปิบ บวกกับได้ขุนศึกคอยช่วยเหลือ  กลุ่มพี่ๆตอกกลับว่า ผูกมัดไม่มีใครว่า แต่ถ้าคาดหวังรวมธุรกิจด้วย มันคงเป็นไปได้ยาก นอกจากนั้นยังมีผลประโยชน์ที่ตามมาอีกหลายทาง ต่อร้องต่อเถียงกันทั้งสามฝ่ายพักใหญ่ คู่หมั้นสาวลูกครึ่งปักษ์ใต้ยืนงงๆ ท่าทางจะไม่รู้เรื่องหรือไม่ได้เอาปากมาด้วย ผมเบื่อรำคาณ ถามพี่ๆว่าสุดท้ายใครแพ้ ใครชนะ หรือเสมอกันไป ไม่เห็นจะได้ประโยชน์อันใด เรื่องยุติอย่างไรหรือ วงล้อมพี่ๆรีบตอบทันที ถ้าหากสองคนมีลูก พี่ๆขอลูกผมเป็นลูกบุญธรรม ค่าใช้จ่ายออกให้หมด สมบัติก็ยกให้เด็กมัน สองฝ่ายสองก๊กเครือญาติกรุงเทพฯทางโน้นรีบขอลากลับ  น้องชายพี่แก้ไขตามที่พี่ๆบอกไว้ เรื่องทั้งหมดได้จบลง เด็กสาวสองคนฝ่ายทางโน้นก็อิสระ น้องชายของพี่มัวแต่รอคอยค้นหาผู้หญิงชาวบ้านที่หาดใหญ่ คนที่ถ่ายรูปวันรับปริญญา น่าจะแก่ตัวเสียก่อน ปัญหาต่างๆก็ปิดลง
          วันแรกของงานแต่งงานจัดขึ้นที่แถบถนนศรีอยุธยา มีเครือญาติทางไทยแท้ดั่งเดิมกับเครือญาติเจ้าสาวจากปักษ์ใต้ ชาวต่างประเทศนิดหน่อย เพราะงานแต่งงานวันที่สามจะเน้นเฉพาะที่ปักษ์ใต้   เท่านั้น ประเพณีที่ปักษ์ใต้เท่าที่จำได้ จะเน้นเรื่องให้ผู้เฒ่าผู้แก่ มาทำพิธี งานแต่งงานวันที่สองจัดที่โรงแรม แม่ใหญ่ขอตัวไม่ไปงาน ขออยู่บ้านเฝ้าบ้าน ผมรู้ความรู้สึกภายในจิตใจของคนแก่ดีว่าทำไมถึงไม่ไปงานแต่งของผม ผมเป็นหลานและเป็นคนเดียวที่ท่านขอจากแม่ให้เป็นลูกบุญธรรม ค่าใช้จ่ายห้าวันกับงานนี้ท่านออกให้เป็นส่วนใหญ่ สาเหตุเพราะท่านพ่ายแพ้กลุ่มพี่ๆของผม ความในใจของคนแก่อยากได้ลูกสะไภ้ฝ่ายกรุงเทพฯมากกว่า
          พี่ๆของผมดีใจ แต่ผมกับเสียใจ เพราะรู้ว่าสาเหตุที่เจาะจงต้องเป็นน้องสะไภ้ที่ควบคุมได้ ถ้ามีความรู้มากก็ย่อมจะทำให้เป็นผลเสียแก่พี่หลายคน วันที่ทำให้ผมรู้เป็นวันที่พี่สาวคนที่สามป่วยด้วยโรคมะเร็ง หลานชายซึ่งเป็นแพทย์และคณะแพทย์ที่ดูแล ได้เรียกญาติพี่น้องมาทำความเข้าใจว่า คงจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสามเดือน คนป่วยก็รู้นี้เช่นกัน เมื่อมีเวลาเหลือน้อยลง พี่ทุกคนจึงได้อยู่ใกล้ชิดและบอกเรื่องบางอย่างแก่ผมว่า ด้วยหลานชายของผมห้าคนถูกเลี้ยงดูค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งของสมบัติเก่าของพ่อแม่ ลำพังเงินเดือนข้าราชการไม่เพียงพอ สามีของพี่สาวของผมแทบจะไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดใด เพราะเขานำไปเลี้ยงน้องๆหลายคนที่กำลังเรียน นอกจากนั้นยังได้รับการสนับสนุนจากแม่ใหญ่หรือน้าสาวคนโต สายตาของพี่หลายคนจับจ้องมองมาที่ผมคนเดียว
          ผมคุยกับพี่ๆ ตัวผมไม่เคยรู้เรื่องราวสมบัติพ่อและแม่ ผมใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับน้าสาวใหญ่คนโตมาตั้งแต่เล็ก ผมได้เห็นแม่ก่อนตายตอนเรียนมัธยม พี่น้องทุกคนก็อยู่ด้วย แม่บอกก่อนตายว่า อย่าได้ทะเลาะกัน พ่อแม่ก็ไม่น่าจะมีสมบัติมากมาย พ่อหาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างขับรถสามล้อเครื่องอยู่ในตลาด แม่ก็เป็นแม่บ้าน เครื่องเพชร ทองคำ เงิน ที่ดิน พันธบัต อื่นๆผมก็ไม่ได้รู้เรื่อง แม้แต่สมบัติของน้าสาวใหญ่ซึ่งเป็นน้องสาวคนรองของแม่ผมยังไม่ใส่ใจ ช่วงนี้เพิ่งจะได้ทราบเรื่องจากน้าสาวใหญ่เล่าให้ผมฟัง พี่ๆทั้งสี่ห้าคนร่วมกันซื้อสมบัติเก่าของพ่อและแม่ในราคาเดิมแบบถูกๆ ถ้าหากซื้อราคาปัจจุบันคงไม่มีปัญญาแน่ ยังไม่พอใจเท่านี้ ยังลุกลามไปหาซื้อสมบัติ ที่ดิน ทองคำ พันธบัตรัฐบาลของแม่เลี้ยงหรือน้าสาวใหญ่  
          ผมพูดกับพี่ทุกคน เข้าใจว่าพี่ทุกคนรักลูก ผมก็รักหลานและเลี้ยงหลานห้าคนมาแต่เกิด ทุกคนวางแผนอะไรเพื่อจุดประสงค์อันใด ทุกคนขัดขวางคนที่ผมรักและเธอก็รักผม เพียงแค่ผู้หญิงชาวบ้านปักษ์ใต้ การศึกษาดี เก่ง ฉลาด วันข้างหน้าจะเป็นมารร้ายที่ทำลายหลายสิ่งที่พี่ทุกคนต้องการ              

Wednesday, 4 January 2012

ภัยในห้างสรรพสินค้า แม่บ้านซื้อของต้องระวัง

ภัยในห้างสรรพสินค้า แม่บ้านเดินห้างต้องระวัง
คนร้ายเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัย  เมื่อสี่ปีก่อนห้างสรรพสิ้นค้าแถบพาหุรัต ยังมีผู้คนเดินแน่นขนัดภายในห้างฯต่างๆ แต่ปัจจุบันหลายห้างต้องเลิกกิจการด้วยหลายสาเหตุ ผู้คนลดน้อยลง ช่วงหลังจับจ่ายเสร็จสิ้น แม่บ้านก็มักจะรีบร้อน ไม่ได้คำนึงถึงใบเสร็จรับเงิน จ่ายเงินเสร็จไม่ต้องรับใบเสร็จก็ได้ ช่วงนั้นยังไม่มีกล้องวงจรปิดเหมือนสมัยนี้ หน่วยรักษาความปลอดภัยเรียกผู้ซื้อมา แล้วบอกว่าแม่บ้านคนนี้ขโมยของในห้าง ขอเชิญตัวไปสอบปากคำ แม่บ้านดังกล่าวยืนยันว่าได้ให้เงินไปเรียบร้อยแล้ว จะมาอ้างว่า ขโมยของได้อย่างไร ต้องเสียเวลาอยู่นานเพราะทางห้างอ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังมา จะยอมรับหรือไม่ โชคดีของแม่บ้านที่มีสติ ให้เดินกลับไปที่คนเก็บเงิน พบคนเก็บเงินคนเดิมและคำยืนยันว่าได้เก็บเงินมาแล้วจริง ไม่ได้ขโมยของอย่างที่ถูกกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจและหัวหน้ารักษาความปลอดภัยจึงเดินหนี
         ท่านลองคิดว่าถ้าหากหน่วยรักษาความปลอดภัยร่วมกับคนเก็บเงินเข้ากันได้ ต้องการหาผลงานเพราะว่าห้างกำลังใกล้จะปิดตัวหรือด้วยสาเหตุอื่นๆ ผู้ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนคือใคร ผู้ซื้อต้องได้รับกรรมแน่นอน วันนี้ขอให้ท่านระมัดระวังอย่างมาก หากเผลอไม่รับใบเสร็จหรืออาจจะมีช่องว่างให้ หน่วยรักษาความปลอดภัยสร้างผลงานเพื่อต้องการต่อสัญญาจ้างกับทางห้างฯ
          บริษัทรับจ้างรักษาความปลอดภัยเริ่มเห็นช่องว่าง และกำลังหาผลงานเข้าตัวเอง วันนี้สัญญาณของการหากินของคนชั่วกำลังมาถึงแล้ว สุดท้ายนี้ขอให้พ่อบ้านแม่บ้านที่ซื้อของในห้างสรรพสินค้า เมื่อซื้อของเสร็จเรียบร้อย อย่าได้ทิ้งของที่ซื้อไว้ในรถเพื่อจะไปซื้อเพิ่มอีก ของที่ท่านซื้อไว้ครั้งแรกจะสูญหาย ท่านไม่สามารถจะเอาความ เอาเรื่องใดๆ เนื่องจากหน่วยรักษาความปลอดภัย มีผู้ปกป้องอยู่เบื้องหลัง
         

Sunday, 4 December 2011

คนที่รักมาก ไม่จำเป็นต้องแต่งงานด้วย

           บางคนอาจคิดว่า เรื่องของบุพเพสันนิวาส ถึงไม่มีโอกาสที่ได้แต่งงาน แต่มีบางคนมีเหตุผลที่แตกต่างกัน กลัวคนที่เขารักมาก จะต้องพบกับความลำบากหรือด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง สมควรที่จะเก็บคนที่รักไว้อันดับต้น หรืออาจจะคล้ายกับคำว่าศัทธาในตัวคนรัก ไม่อยากให้คนอื่นมาแตะต้อง ทำร้าย ทำลายคนที่รักมากที่สุด
 กาลเวลาเปลี่ยนไป การศึกษา สังคมที่หมุนอยู่ตลอด เทคโนโลยี่ที่พัฒนาขึ้น ฯลฯ ทำให้คนเรามีเวลาให้กลับความรักที่น้อยลง แต่เวลาที่มีมากในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ต่างคนก็พบรักที่หลากหลาย หลังจากนั้นก็ต้องเปลี่ยนแปลงมาทำงานหาเลี้ยงชีวิต ความก้าวหน้าในการงาน พร้อมกับต้องเจอะเจอคนที่ถูกใจ ต้องตัดสินใจหาคู่ร่วมในการดำเนินชีวิต บางคนอาจจะคิดว่าพบคนที่ถูกใจ คนนี้แน่นอน
          หนึ่งในไม่กีคนที่คิดแปลก หรืออาจจะวิเคราะห์อีกรูปแบบ เขาและเธอกลับคิดว่า ต้องแยกออกระหว่างคนที่รักเรามาก กับคนที่ต้องแต่งงานด้วย เพราะด้วยเหตุผลบางอย่าง  
               http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&list=FLJTmkwfw73H7WL4cAufgpdQ&v=3Ap1k7JuZFM