Asian Stamp Rare

Tuesday, 22 January 2013

อาหารอินเดียในกรุงเทพฯ เจมัวที่หาซื้อมาทานได้ยาก

                                                             อาหารอินเดีย   เจมัว






 

          เจมัว เป็นอาหารว่างของทางอินเดีย ค่อนข้างจะทำยากลำบาก เพราะวัตถุดิบที่ใช้หายากมาก เช่น หัวนมแท้  ขณะนี้ไม่มีผู้ทำขายให้เห็นอีกแล้ว สิ่งที่ยากอันดับสอง ช่วงที่ทอดนั้น หากเจมัวจมลง ย่อมหมายถึงความผิดพลาด 






         เคยได้ยิน และคุ้นเคย มีการเรียกอาหารชนิดนี้ว่า กุหลาบเจมัว น่าจะนำมาจากเมืองหนึ่งในประเทศอินเดีย 
         ประเทศไทยของเราโชคดี ที่ได้วัฒนธรรมอาหารอินเดียเข้ามาบ้าง เพราะชาวอินเดียเข้าตั้งรุกรากปักฐานในบริเวณกรุงเทพฯ มาช้านาน ทางด้านรสชาด จะมันเพราะมีส่วนประกอบของนมที่มีมากกว่า หากจะหารับประทานได้ในขณะนี้ ก็เห็นจะต้องรอคอยงานประเพณีที่สำคัญของชาวมุสลิมเขตในเมืองกรุงเทพฯ  สาเหตุที่ชาวมุสลิมได้รับการถ่ายทอดการทำอาหาร น่าจะมาจากมีพื้นที่พักอาศัยอยู่ใกล้เคียงกัน 



          

กุหลาบยามูน เป็นอีกชื่อหนึ่งที่คนไทยตั้งชื่อขนมนี้






มีการใส่นมข้น บนหน้าของขนม บางแห่งวางเมล็ดอัลมอนด์ไว้ด้านบน 



บางพื้นที่เรียกว่า กุหลาบแยมูน หรือ กุหลาบยามูน 

Friday, 4 January 2013

ปีกไก่เหล้าแดง

                                             ปีกไก่เหล้าแดง




ไม่ค่อยจะได้พบเห็นอาหารที่มีส่วนผสมเหล้ากันมากนัก ครั้งนี้ขอนำเสนอ

                                           ส่วนผสม

ปีกไก่                                                      1                                                       กิโลกรัม

กระเที่ยมสับ                                           1                                                       ช้อนโต๊ะ

ขิงสับ                                                       2                                                              "

ซอสมะเขือเทศ                                       1                                                       ถ้วย

เหล้าจีน                                                    1/4                                                      "

พริกไทยป่น                                            1                                                        ช้อนชา  

น้ำตาลทราย                                           1/4                                                     ถ้วย

แป้งข้าวโพด                                           1/4                                                        "

น้ำ                                                             1/4                                                        "

น้ำมันทอด                                               2                                                            "

รากผักชี                                                  1                                                       ช้อนชา

แม๊กกี้                                                       3                                                        ช้อนโต๊ะ

ผักกาดสำหรับรองจานและผักชีโรยหน้า

                                         เครื่องหมักไก่

รากผักชี                                                  1                                                      ช้อนชา

พริกไทยป่น                                             1                                                            "

แม๊กกี้                                                        2                                                      ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1.โขลกพริกไทยกระเทียมรากผักชีให้ละเอียด

2. นำปีกไก่กับพริกไทยกระเทียมรากผักชีและแม๊กกี้ หมักประมาณ 1/2 ชม.

3. ทอดปีกไก่ให้เหลืองตักขึ้น

4. เจียวหรือทอดกระเทียมพอเหลือง ใส่ขิงสับ ซอสมะเขือเทศ แม๊กกี้ น้ำตาลทรายให้เข้ากัน ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำ คนให้ทั่ว

5.นำปีกไก่ที่ทอดไว้ลงคลุกเคล้าในซอสให้ทั่วปีกไก่ แล้วใส่เหล้าจีนลงไป 

6. ตักขึ้นใส่ภาชนะจานรองด้วยผักกาดหอม โรยผักชีให้มีรสชาดและดูสวยงาม 

         เทคนิคในการทำอาหารให้มีรสชาดที่ดี 

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จะนำเสนอเทคนิคในการทำอาหาร มีหลายคนอาจจะสงสัยทำไม ทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว รสชาดไม่เข้าท่า เข้าทางเหมือนพ่อครัว แม่ครัวทำ ที่ร้านอาหารบางร้านก็มีเครื่องปรุงเหมือนกับที่ท่านทำที่บ้าน  เคล็ดลับบางอย่างเจ้าของร้านจะไม่บอก ถือเป็นความลับทางธุรกิจ ขณะนี้หรือปัจจุบันนี้ เจ้าของร้านจะไม่ให้ลูกจ้างได้เห็นกรรมวิธีหรือส่วนผสม ยกเว้นให้เห็นเฉพาะในผู้สืบทอดกิจการเท่านั้น ผมจะบอกแนวทางเบื้องต้น ท่านต้องนำไปประยุกต์เอง

วิธีทำไก่ให้มีรสชาดดี ก่อนจะนำปีกไก่ไปลงหมัก ให้สังเกตุปีกไก่ จะหมักไก่ให้ได้เนื้อในปีกไก่มีส่วนผสมซึมลึกภายใน ต้องมีวิธีสังเกตุสักหน่อย อย่างที่สองภาชนะหมักก็มีส่วน การทอดก็มีวิธีเช่นกัน 

ทุกบล๊อกที่ได้นำเสนอ ไม่ได้มีการลงโฆษณาสินค้าเพื่อหวังผลตอบแทนอันใด ยกเว้นเป็นตามข้อสัญญาของบล๊อกเกอร์ ทีมีสิทธกระทำได้

เจ้าของบล๊อกทำขึ้นจริง ไม่ได้นำเสนอที่เลื่อนลอยหรือหลอกลวง ดังมีภาพประกอบท้ายเรื่อง 



Friday, 28 December 2012

FACEBOOK สังคมออนไลน์ ไม่ยอมให้ลงพระเจ้าตาก

FACEBOOK สังคมออนไลน์ไม่ยอมให้ลงพระเจ้าตาก

เนื่องในวันรำลึกถึงพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ลงเหรียญพระเจ้าตากจำนวนสามเหรียญพร้อมกับเงินโบราณ เพื่อเป็นเกียรติแก่คนไทยและเพื่อน แต่ไม่สามารถขึ้นบนสังคมออนไลน์ของ FACEBOOK ได้ มีการปล่อยให้โหลดเป็นเวลานาน พยายามจะให้เพื่อนๆในสังคมออนไลน์ได้รำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน การทำลักษณะนี้ย่อมมีความหมายที่ซ่อนเร้น



ในวันที่ 28 ธ.ค.ของทุกปีคนไทยยังคงรำลึกถึงคุณงามความดีของวีรบุรุษผู้สร้างชาติไทย ได้พยายามลงรูปเหรียญที่ระลึกของพระเจ้าตากสินมหาราชพร้อมด้วยเงินโบราณเป็นฐานตั้งแต่ช่วงเช้า กลางวัน และกลางคืน แต่เฟรสบุคสังคมออนไลน์กลับดำเนินการกลั่นแกล้งไม่ยอมปล่อยรูปให้เพื่อนๆได้เห็น และนึกถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราข

ไม่ทราบด้วยเหตุผลประการใด จึงมีจิตใจคับแคบ ไร้จิตสำนึก

จึงได้ลงประกาศไว้ให้คนไทยและคนต่างชาติที่เข้าใจประวัติศาสตร์ของคนไทยรับทราบไว้

Saturday, 22 December 2012

กริชมัสสุหรี ตอนอาถรรพณ์มนตร์ดำ

กริชมัสสุหรี ตอนอาถรรพณ์มนตร์ดำ

คำสอนของพ่อสมัยยังมีชีวิตอยู่ที่ไม่เคยลืม เข้าสวนเข้าป่าดง จะทำอะไรให้บอกเจ้าป่าเจ้าเขา ยืนฉี่ก็ต้องบอกกล่าว ไม่ว่าญาติพี่น้องที่นับถือศาสนาไหนก็ตาม บอกกล่าวขอให้ช่วยคุ้มครอง ถึงแม้พวกเราจะเรียนมาทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งตัวผมด้วย เรื่องทางไสยศาสตร์มันพิสูจน์ได้ยาก หากไม่เชื่อก็อย่าไปลบหลู่ แม่บังเกิดกล้ารีบบอกกล่าวว่า เคยเห็นคนที่เล่นและเรียนมาทางไสยศาสตร์ในทางที่ดีก็มี แต่เขาจะไม่บอกให้ใครรู้ บางคนที่ได้รับถ่ายทอดมาจากผู้ใหญ่ทางไสยศาสตร์นำไปเพื่อหวังผลประโยชน์ อายุจะสั้นลง ถ้าโชคดีหน่อยชีวิตบั้นปลายก็เป็นคนเสียสติ เวลาใกล้จะตายต้องทนทุกข์ทรมาน  ให้ทุกข์แก่คนอื่นถึงเวลามันหวนกลับมาหาตัว  แม่เห็นมาแล้ว ไสยศาสตร์ไม่ใช่เรื่องของการเล่นกลนะลูก 

ที่ท่านเตือนลักษณะแบบนี้ อาจจะเพราะว่าผมต้องเดินผ่านป่าช้าถึงสองแห่งเพื่อไปบ้านน้าสาวใหญ่ในตอนค่ำเป็นประจำ คนในกรุงเทพฯสมัยนั้นใครได้ยินชื่อป่าช้าสองแห่งนี้ มีอันต้องกลัวกันทั้งนั้น ยามดึกเปิดหน้าต่างหลังบ้านแอบมองหาบ้านเพื่อนในป่าช้า ได้ยินเสียงรถดังสนั่น ขนเอาหีบศพร่างไร้วิญญาณมาวางสี่ห้าโรงศพ น้าสาวใหญ่ไล่ให้ไปล้างหน้า ทำให้นึกถึงสัปเหร่อที่รู้จักกันตั้งแต่เด็กๆ เพื่อนสัปเหร่อมีบ้านพักอยู่ท่ามกลางร่างไร้วิญญาณ ผมมักจะเห็นเพื่อนท่องบทสวดมนตร์ก่อนทำงานกับร่างไร้วิญญาณบ่อยครั้ง หลายครั้งที่เราคุยกันจนดึกดื่นท่ามกลางป่าช้าที่อยู่ใกล้บ้าน ครอบครัวของสัปเหร่อบอกผมว่า หากมีคนแปลกหน้าไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายมาร่วมวงคุยด้วยกัน อย่าได้ตกใจ ให้สังเกตุดูที่เท้าคนแปลกหน้า พยายามมีสติไว้ให้ได้ ทำตัวให้ปกติ ต้องคิดอยู่เสมอว่า ธรรมดาของคนที่ตายแล้วอาจจะยังไม่รู้สึกตัว แต่จิตยังวนเวียนอยู่ใกล้ร่างกาย พวกผมที่อาศัยอยู่บริเวณนี้จึงเข้าใจเรื่องนี้ดี นอกจากนั้นยังเข้าใจครอบครัวสัปเหร่อ ต้องมีวิชาไสยศาสตร์สาย มนตร์ขาวเพื่อป้องกันตัว 

ทุกครั้งที่เราวิ่งเล่นหรือเดินข้ามหลุมศพ จิตใจของพวกเราจะขอโทษร่างเหล่านั้น ยิ่งพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า วงเด็กที่เล่นก็แตกกระเจิงเดินกลับบ้าน มีหลายครั้งดึกดื่นมาก จะมีญาติสี่ห้าคนมาขอขุดศพ มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก มีคนมารบกวนร่างไร้วิญญาณในยามดึกดื่น ผมแอบมองช่องเล็กๆของหน้าต่างแบบโบราณ เห็นพ่อและเพื่อนสัปเหร่ออยู่ในวงนั้นด้วย นักโบราณคดีต่างประเทศที่ไปรบกวนร่างไร้วิญญาณยังพบจุดจบมาแล้ว การบุกรุกหลุมศพที่นักบวชทำพิธีไว้ เป็นมนตร์ดำแห่งความชั่วร้ายขนาดไหน เราคงจะเห็นหรือได้อ่านเรื่องที่ต่างประเทศบอกถึงจุดจบชีวิตของผู้รบกวนมามากมาย แต่ร่างไร้วิญญาณที่ผมกล่าวมาข้างต้น ยังไม่ได้ผ่านพิธีสวด รอวันเวลาทำพิธีสวดมนตร์ใหญ่ร่วมกัน แน่นอนว่า ที่ผมเห็นจะต้องมาทำพิธีหวังผลได้จาก มนตร์ดำ  

 ผมเคยคุยกับนักโบราณคดีที่มีชื่อเสียงของไทยคนหนึ่งซึ่งเปิดร้านขายของโบราณเก่าในโรงแรมใจกลางกรุงเมื่อราวสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา ได้รับซื้อของมาชิ้นหนึ่ง นำเข้ามาไว้เพื่อขายในร้าน ทุกวันที่อยู่ร้านค้า มักจะได้ยินเสียงมีบางอย่างกระแทกพื้นไม้ของร้านเป็นประจำ เสียงของมันในเวลากลางวันกลางคืนไม่แตกต่างกันนัก ด้วยประสบการณ์ชีวิตเจ้าของร้านที่ผ่านมากับการอยู่กับของโบราณแท้ๆย่อมรู้แล้วว่ากำลังเผชิญกับเรื่องของมนตร์ดำแน่นอน เหตุุผลที่อ้างว่าพื้นไม้เบียดกัน ข้อนี้เลิกคิดได้เพราะเป็นร้านชั้นเดียว พิ้นไม้สร้างมาเพื่อป้องกันการเลื่อนตัว ด้านข้างหนึ่งเป็นตึกสูง อีกสองข้างเป็นที่โล่งสำหรับจอดรถ ด้านสุดท้ายไม่ห่างกันมากนักกลับกลายเป็นที่ศักดิ์สิทธิ เป็นศาลเพียงตามีปลัดขลิกจำนวนมาก ผู้คนมานมัสการไม่ขาดสาย คิดว่าของโบราณชิ้นนี้น่าจะได้พลังเสริมจากจุดนี้  ไม่นานเท่าไรเจ้าของเดิมกลับมาขอซื้อของโบราณชิ้นนั้นกลับไปจากนักโบราณคดีเจ้าของร้าน 

มนตร์ดำเมื่อสามสิบกว่าปี รายการโทรทัศน์ที่ถ่ายทำเรื่องราวของทรัพย์สมบัติในอียิปต์ให้ชาวไทยได้ชม กว่าจะถ่ายทำได้ก็ต้องพบกับอุปสรรคและการสูญเสียจำนวนมาก เจ้าของรายการผู้มากประสบการณ์รุ่นเดียวกับคุณแม่ผม ถึงกับอึ้งถึงความอาถรรพณ์คงจะมีจริง เพียงเริ่มต้นออกรายการเรื่องราวความเล้นลับในประเทศอียิปต์ ระบบไฟฟ้าก็ระเบิดทันที หลายปีตลอดชีวิตของเจ้าของรายการพบเห็นความอาถรรพณ์เข้าจริง

ความเชื่อในเรื่องมนตร์ดำเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนที่จะพิจารณา สำหรับตัวผมได้สัมผัสและเห็นเหตุการณ์ด้วยตัวเอง พี่สาวนั่งคุยกับรูปภาพรัชกาลที่ห้า สักพักหนึ่งก็หันมาทางผมซึ่งเป็นน้องชายว่า เธอโชคดีมากมีผู้หญิงร่างเล็กคอยคุ้มกันอยู่ทางขวามือ ท่าทางจะมาจากทางใต้ เจ้าหญิงผู้น่ารัก   

ชั่งโชคดีหรือโชคร้าย มนตร์ดำทางไสยศาสตร์ไม่สามารถเข้าหาตัวผมได้ แต่เจ้ามนตร์ดำวิ่งเข้าหาพี่หนู พี่สาวเกิดก่อนผมสองปี ลักษณะ อาการ ของพี่สาว จะนั่งนิ่ง สายตามองขึ้นบน พูดคุยคนเดียว พี่ๆของผมเรียนทางวิทยศาสตร์รวมทั้งตัวผมด้วย ไม่มีใครเชื่อเรื่องทางไสยศาสตร์

ผมได้เดินทางกลับจากปักษ์ใต้มาบ้านเกิดเมืองนอนในกรุงเทพฯสักสองปีหลังจากจบการศึกษา พี่สาวคนที่แปดซึ่งเกิดก่อนผมสองปี  เริ่มบ่นคิดอยากจะลาออกจากการสอนหนังสือในโรงเรียนที่มีคริสต์จักรเป็นเจ้าของ ครูที่แห่งนี้นับถือคริสต์ทั้งนั้น ต่อมาไม่นานหลังจากพี่สาวลาออกจากการสอนหนังสือ อาการของสายตาที่ล่องลอยบนท้องฟ้าและเลื่อนลงมาสู่พื้นมีบ่อยครั้ง พี่ๆหลายคนต้องพาไปโรงพยาบาลหลายแห่ง แต่ก็ไร้ผล พี่สะไภ้คนแรกไปปรึกษาญาติทางพุธ มั่นใจว่าต้องได้รับมนตร์ดำที่ใครส่งมา พี่สาวทั้งหกคนและเครือญาติเริ่มสงสัยและกินใจแคลงใจ ความมุ่งร้ายครั้งนี้กระทำในช่วงนี้หลังจากพ่อแม่ได้ตายมาหลายปี หากท่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ คงจะแก้ไขไม่ยาก พอจะเสาะหา หรือค้นหาขอร้องผู้ช่วยเหลือทางไสยศาสตร์สายมนตร์ขาวได้ ผู้ใหญ่ที่เหลืออยู่ขณะนี้น้าสาวใหญ่ก็มุ่งแต่ธุรกิจ การค้าขายเสียมากกว่า แต่น้าสาวใหญ่ก็มีความกังวลพอควร พี่สาวซึ่งถูกมนตร์ดำเปรียบเสมือนมือหนึ่งที่ช่วยเหลือทางการค้าขาย ส่วนผมเป็นมือรองที่ช่วยเหลือทางธุรกิจ 

มันเป็นแรงอิจฉาริษยาเพื่อต้องการอะไรบางอย่าง น่าจะมาจากพี่ของผมทั้งแปดคน ทุกคนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้หมดและมีหน้าที่การงานที่ดี ประเด็นนี้เป็นความคิดส่วนตัวของผมเอง  พี่สาวและพี่ชายทั้งแปดคนกลับมีความคิดที่แตกต่างจากผม ทุกคนมุ่งมองประเด็นแรงอิจฉานี้พุ่งมาที่ผม โดยให้เหตุผลตรงกันว่า คนที่ส่งมนตร์ดำมาต้องเคลียดและแค้นใจอย่างเหลือจะทนได้ น่าจะมาจากการที่ผมปฎิเสธการแต่งงานหลังจากเรียนจบ มันเป็นการผิดสัญญาของผู้ใหญ่ทีทำไว้ตั้งแต่ผมยังเด็ก ฝ่ายหญิงทั้งสามฝ่ายต้องแค้นใจมาก แผนการนี้ไม่ใช่มุ่งหวังเพียงงานแต่งงานอย่างเดียวเท่านั้น การเกื้อหนุนทางธุรกิจ การค้าย่อมส่งผลกระทบกับฝ่ายหญิงทั้งสามอย่างมาก และที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ความมั่นใจของฝ่ายหญิง ผมนั้นมีความสามารถนำให้ครอบคร้วของฝ่ายหญิงมีกำแพงป้องกันในการดำเนินธุรกิจอนาคตได้อย่างยาวนาน 

ไม่มีครั้งใดที่ผมพลาดที่จะไปดูการต่อสู้กับมนตร์ดำ พวกกลุ่มพี่ๆของผมบังคับนักหนา ผมจะต้องร่วมดูการทำพิธีแก้ไข ถอดถอนมนตร์ดำออกจากร่างของพี่สาวคนที่แปด ยังจดจำการต่อสู้มนตร์ดำครั้งใหญ่ได้สามสี่ครั้งเสมอ ทั้งสามครั้งการแก้ไขมนตร์ดำพวกเราทั้งหมดต้องข้ามฝากฝั่งแม่น้ำ ผู้ทำพิธีแก้ไขดูหน้าเชื่อถือ เพราะเข้าไปในบ้านเรือนไม้ที่มีผู้คนอยู่ร่วมทำหลายคน เราต้องรอคอยอยู่นาน เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้าที่มีบุคคลอื่นทำการแก้ไขมนตร์ดำ มีความรู้สึกว่า ผู้ทำพิธีดูอ่อนล้ามาก เหมือนคนใกล้จะหมดแรง ได้ยินเสียงคนทรงสั่งให้ไม่รับงานเพิ่ม ปิดประตูบ้านด้วย คนทรงแก้ไขมนตร์ดำมีสายตามาที่พี่สาวคนที่แปด เหมือนจะรู้ล่วงหน้ากำลังจะต่อสู้กับอำนาจทางไสยศาสตร์ที่ไม่อาจจะพิสูจน์ได้เมื่อเที่ยบกับทางวิทยาสตร์ หลังจากนั้นสายตาก็เลื่อนมามองที่ตัวผมพร้อมกับพูดว่า เจ้าหนุ่มโชคดีที่มีคนคุ้มกันอยู่ทางขวามือ   ผมเริ่มคิดแล้วว่าเพื่อนที่ผมรักมากที่อยู่แดนไกลแน่นอน สาวแห่งเมืองปักษ์ใต้ที่ผมเอื้อมมือไปไม่ถึงเธอ พี่สาวคนที่สองจ้องมองตรงมาด้วยสายตาที่ไม่พอใจเพราะพี่สาวคนนี้เคยรับไหวจากสาวเมืองใต้  ในใจของผมไม่คิดโกรธพี่สาวสักนิด ผู้บงการพี่สาวให้เกลียดเธอเป็นใครผมก็รู้

พิธีเริ่มต้นด้วยผู้ทรงแก้ไขมนตร์ดำ เข้าไปอาบน้า หลังจากนั้นก็นำน้ำมาลาดใส่พี่สาวคนที่แปด ซึ่งนั่งตรงขัดตะหมาดอยู่หลายครั้ง ข้างๆของพิธีมีบายศรีรอบข้าง กลิ่นของธูปเที่ยนปกคลุมไปรอบข้าง ความเหนื่อยล้า อ่อนเพลียของคนทรงแก้ไขมนตร์ดำมองได้เด่นชัด สีหน้าดำคล้ำไปทั่วร่าง หยุดพักอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันมาพูดคุยกับกลุ่มพี่สาวผู้ติดตามรวมทั้งตัวผมด้วย คำอธิบายจากปากผู้มีมนตร์ขาว เล่าว่า มนตร์ดำที่ติดร่างของพี่สาวผมนั้น ไม่ใช่มาจากเขมร มันมาจากทางสายอินเดีย ของมนตร์ดำขึ้นประทับร่างพี่สาวคนที่แปดทั้งซ้ายมือและขวามือ ลักษณะเข้า ร่างขึ้นประทับเหนือไหล่ทั้งสองแล้วก็ออกไป สลับกันแบบนี้ คงจะต้องนำร่างทรงออกหมดก็ต้องกลับมาทำอีกอย่างน้อยสองครั้งหน้า ที่เห็นทำพีธีเมื่อสักครู่เป็นการทำพิธีเพื่อให้เห็นว่า มีมนตร์ดำอยู่ตรงจุดไหนบ้าง ต่อไปก็จะเป็นพิธีนำร่างทรงซ้ายขวาออกไปบางส่วน ขอให้ทุกคนที่นั่งอยู่ในที่นี้สงบนิ่ง มีสิ่งใดหรือเห็นสิ่งใดให้อยู่สงบ 

คำอธิบายของผู้มีมนตร์ขาวทำให้ความบริสุทธจากการให้ร้าย ความแคลงใจ ที่พี่สาวบางคนของผมคิดร้ายต่อเงาสาวที่ติดตามผมอยู่ทางขวามือลดลงทันที ผมเริ่มภาวนาจิตใจ ขอวิงวอนเงาสาวจากแดนใต้ทางขวามือ ขอให้เงาสาวจากเมืองปักษ์ใต้ทางขวามือที่รักผม ซึ่งคอยช่วยผมมาตลอดหลายครั้ง จงโปรดช่วยเป็นพลังขับให้พี่สาวคนที่แปดของผมหายจาการได้รับมนตร์ดำด้วยเถิด ชาวบ้านแถวนี้ยังเห็นร่างสาวทางขวามือผม แต่ผมกลับไม่สามารถเดินทางลงใต้ไปหาเธอได้ตามที่สัญญาไว้ ยังคิดอยู่ตลอดเวลา เธอเปรียบเสมือนเจ้าหญิงแห่งเมืองปักษ์ใต้ของผมคนเดียวทีอยู่ในใจผมนิรันดร ก่อนวันที่เราสองคนจะแยกกัน ทั้งสองคนยังยืนอยู่ใต้ต้นสนต้นแรกในสนเก้าต้นที่สูงสง่าในดินแดนปักษ์ใต้ที่ไกลแสนไกลเป็นระยะทางหนึ่งพันกิโลเมตร ณ วันนี้ไม่มีต้นสนให้ผมได้เห็นอีกแล้ว มันอาจจะล้มตาย หายไปพร้อมกับคำผิดสัญญาว่า ผมจะกลับมาหาเธอ

ผู้มีมนตราขาวเดินไปหยิบมีดดาบยาวสองเล่ม นำมาวางเป็นรูปกากบาทด้านหลังของพี่สาวคนที่แปดซึ่งนั่งสงบและเปียกไปด้วยน้ำที่ถูกลาดเต็มตัว ท่าทางของผู้ทรงมนตราขาว ร่ายรำอยู่ด้านหลังของร่างพี่สาวที่มีมนตราดำ ฝีปากก็ร่ายคาถาสวดมนตร์ มีดในมือฟาดฟันลมสลับไปมาอยู่นาน พักต่อมาก็มีท่าทางมีดในมือเริ่มเปลี่ยนทิศทางไปทางซ้ายและขวาของร่างพี่สาวทีมีมนตราดำ ทันใดนั้น ทุกคนที่อยู่ในพิธี เริ่มจะได้กลิ่นแปลกๆ ออกมาจากจมูก กลิ่นของมันเหม็นมาก เหมือนศพของคนที่กำลังขึ้นอืด แทบไม่น่าเชื่อว่า กลิ่นธูปหอมรอบข้างพิธีถูกกลบหายไปสิ้นเป็นเวลาเกือบสิบนาทีได้ มันเป็นจริงอย่างที่ผู้มีมนตราขาวบอกไว้ล่วงหน้า หลังเสร็จสิ้นพิธีถอดร่างทรงมนตราดำของพี่สาว ด้วยความสงสัย สอบถามผู้มีมนตราขาวถึงทำไมท่านไม่มีผู้ช่วยคอยช่วยหยิบของ ทุกอย่างในพิธีต้องทำเองหมดทุกอย่าง คำตอบเอาไว้ทำพิธีครั้งที่สองในสัปดาห์หน้า แล้วหนุ่มน้อยจะได้เข้าใจ กลับไปลองคิดดูว่าวันนี้พบอะไรบ้างระหว่างทำพิธี บางทีคำถามจะได้คำตอบระหว่างทางที่เจ้าหนุ่มน้อยเดินทางกลับ สิ่งสำคัญที่สุดก็อย่าลืมให้พี่สาวทำพิธีบายศรีรับร่างทรงทุกวันในยามค่ำคืน ไม่น่าจะเกินหนึ่งเดือนก็น่าถอดร่างมนตราดำออกได้หมด สีหน้าของกลุ่มพีสาวและผมที่ร่วมไปในพิธีดูดีขึ้น เริ่มเห็นหนทางที่พี่สาวคนที่แปดจะหายจากมนตราดำสว่างขึ้น ทุกคนก็เบื่อหน่ายที่ต้องพาไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ แล้วก็ไม่ได้ผล มาเห็นหนทางนี้แล้ว มันเป็นเรื่องแปลกจริง 

ระหว่างเดินทางกลับมาบ้านพวกเราทั้งกลุ่มข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คำถามที่ผมถามผู้มีมนตราขาวก็ผ่านสมองมาทันที  คำตอบมันวิ่งมาหาให้ผมโดยไม่ต้องคิดมาก ไม่มีใครกล้าที่จะอยู่รับใช้ท่านผู้มีมนตราขาวเพราะท่านช่วยเหลือคนตกทุกข์ ย่อมจะมีภัยมืดคอยจ้องทำร้ายอยู่ตลอดเวลา กระแสจิตของผู้มีมนตราขาวยังยกตัวอย่าง มันก็เหมือนกับเจ้าหนุ่มน้อย ยามใดก็ตามที่มีสาวทางขวามือคอยคุ้มกันในยามที่มีทุกข์  ย่อมจะมีคนคิดทำร้ายเธอได้ตลอดเวลา เจ้าหญิงแห่งเมืองปักษ์ใต้จะช่วยหนุ่มน้อย แต่ตัวเธอก็ยอมรับความทุกข์มัน ไม่มีใครคอยช่วยเหลือเธอ มีแต่คนรังเกียจโดยอ้างว่า ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า ญาติโยมใกล้ชิดในเชื้อสายทีพอจะสืบความก็ไม่มี อีกไม่นานนักร่างของเธอทางขวามือน่าจะค่อยๆจางหายไป หน้าที่ของหญิงทางขวามือคงจะทนทานกับพลังทีมีอยู่ต่อไปไม่ได้ เจ้าหนุ่มน้อยยังมีคำถามอยู่ในใจใช่ไหม รีบถามก่อนที่พลังจิตจะเลื่อนลาง คำถามและคำตอบในใจข้อนี้สำคัญสำหรับหนุ่มน้อยมาก

ผู้มีมนตราขาวตอบคำถามของเจ้าหนุ่มน้อยว่าจริงหรือไม่ในใจตั้งคำถามว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าวันไหนพลังเงาร่างของหญิงสาวเมืองปักษ์ใต้หมดพลังช่วยเหลือผม  วันที่เจ้าหนุ่มน้อยพบกับตัวจริงของเธอ เงาร่างของเธอทางขวามือจะหมดไป เพราะรอบข้างของคนทั้งสองมีแรงอิจฉาริษยาในเครือญาติที่ยืนล้อมรอบไม่ห่างจากที่คนทั้งสองมากนัก เรื่องราวของเจ้าหนุ่มน้อยหลังจากที่พบกันแล้ว ยังมีอีกต่อไปภายหน้า แต่ที่ผู้มีมนตราขาวมองไม่เห็น เพราะชีวิตช่วงนั้นคงจะดับสูญไปก่อน

 หลังจากการทำพิธีถอดร่างทรงครั้งที่สองและครั้งที่สามจากการช่วยเหลือของผู้มีมนตราขาวในฝากฝั่งธนบุรี อาการของพี่หนู พี่สาวคนที่แปดก็เป็นปกติ ในตอนค่ำของทุกคืนเป็นเวลาเกือบสามเดือนที่กลุ่มพี่สาวและตัวผมมีหน้าที่สลับกันตรวจตราให้พี่สาวคนที่แปดทำบายศรีให้แก่ร่างทรงทางขวามือแลซ้ายมือตามที่ผู้มีมนตราขาวสั่งไว้ หกเดือนต่อมาพี่สาวคนที่แปดก็เดินทางไปอยู่ต่างประเทศ  ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่กลับมาอยู่เมืองไทย

 


   


 

anan: เทคนิคการทำปลาสลิดทอด ของขวัญปีใหม่ 2013

anan: เทคนิคการทำปลาสลิดทอด ของขวัญปีใหม่ 2013:             เทคนิคการทำปลาสลิดทอด ของขวัญปีใหม่ 2013            สุขสวัสดีเนื่องในวาระ ขึ้นปีใหม่ 2013 จึงได้มอบเทคนิคการทำปลาและท...

เทคนิคการทำปลาสลิดทอด ของขวัญปีใหม่ 2013



            เทคนิคการทำปลาสลิดทอด ของขวัญปีใหม่ 2013 



          สุขสวัสดีเนื่องในวาระ ขึ้นปีใหม่ 2013 จึงได้มอบเทคนิคการทำปลาและทอดปลาสลิดให้เป็นของขวัญ ช่วยให้เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ สะดวกในการรับประทาน ง่ายต่อการนำปลาสลิดไปยำในภายหลัง บางท่านอาจจะไม่เคยเห็น 



         

          วิธีการทำปลาสลิดสด จะต้องตัดครีบปลาออกให้หมด ที่ท่านเห็นในรูปข้างต้นเป็นตัวอย่างที่มีครีบให้เห็นว่า ยังตัดไม่เรียบร้อยมากนักหลังจากทอดเสร็จแล้ว หลังจากนั้นก็จำเป็นต้องบากปลาตามที่ท่านถนัด แต่ที่ไม่ค่อยจะเห็นกันมากนักคือ การบากปลาด้านข้างทั้งหมดสี่ด้าน ดังตัวอย่าง ในรูป 

          การบากปลาลักษณะนี้ กลิ่นคาวของปลาจะออกมาเวลาที่ท่านทอดปลาในไฟที่อ่อน นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงวัยและเด็ก 

           กะทะที่ทอดปลาก็มีความสำคัญ เทคนิคอื่นก็ต้องพิจารณาด้วยคือเนื้อปลาที่จะไม่เท่ากันนั้น ผู้ทอดต้องใช้เทคนิคพอสมควร  ส่วนหัวปลาและอกปลาควรได้รับความร้อนที่มากกว่า หากท่านสามารถใช้มีดที่ถูกต้องก็จะช่วยให้ดูสวยงามกว่าที่เห็น การใช้มีดผิดประเภทเป็นตัวอย่างที่ท่านเห็น  ภาชนะที่ใส่อาหารก็มีส่วนช่วยให้ดูน่ารับประทาน 



         ในกรณีที่ท่านจะนำเนื้อปลาสลิดไปทำยำต่อ หรือผัดร่วมกับผักบางชนิด ก็ควรทอดตามที่ท่านตั้งใจ หวังว่าคงจะให้ประโยชน์กับท่านผู้อ่านหรือท่านผู้อ่านอาจจะมองเห็นมีวิธีอื่นๆที่แตกต่างนอกเหนือจากนี้อีกก็เป็นได้   

Friday, 30 November 2012

ปัญหาการศึกษาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

การศึกษาในสามจังหวัดชาปัญหาการยแดนภาคใต้
         ก่อนที่จะลงไปแก้ปัญหา สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราคงจะต้องนำเอาหนังสือ สามก๊กและตำนานสามก๊ก เจ้าพระยาพระคลัง(หน) จำนวน 2100 หน้า มาศึกษาให้เข้าใจ หนทางที่ปลายสุดอาจจะง่ายขึ้นก็ได้ แต่จะต้องปรับบางอย่าง เนื่องจากสถานการณ์ ความก้าวหน้า สังคมที่เปลี่ยนแปลง สภาพดินฟ้าอากาศ ปัจจัยรอบด้าน ภาษา จะเป็นตัวแปรให้เกิดความผิดพลาดได้

           ปัญหาแรก การศึกษาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ถือเป็นต้นแบบให้นักการศึกษาระดับผู้เชี่ยวชาญต้องนำมาวิเคราะห์ วิจัยกันใหม่  ไม่โทษรัฐบาลและไม่โทษผู้วางระบบการศึกษาของประเทศ มีนักการศึกษาพยายามจะแก้ไขจุดอ่อนของ พ.ร.บ.การศึกษาเพราะเห็นว่า น่าจะล้าสมัย สังคมมีการเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป ในส่วนของต่างจังหวัดรัฐกำหนดให้องค์การบริหารส่วนตำบล ผู้ปกครองและอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมรับหน้าที่กำหนดขอบเขต การพัฒนา การเรียน การสอน กระทำตามรูปแบบโรงเรียนทั่วไปที่ใช้กันอยู่ ไม่เอื้อประโยชน์ให้การศึกษาในสามจังหวัดชายแดนใต้ สาเหตุจุดสำคัญเริ่มต้น องค์กรบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่ประชาชนไทย-พุทธ มุสลิมที่รับเลือกเข้ามา รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านด้วย ไม่มีความรู้พอ การศึกษาก็ต่ำ  ครูผู้สอนก็ไม่ได้สำเร็จมาทางการศึกษา คัดเลือกครูผู้สอนเฉพาะในพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนครู ครูผู้สอนมุ่งเน้นที่จะสอนตามหลักสูตรที่ส่วนกลางหรือทั่วประเทศกำหนด

          ความหมายของการศึกษามีหลายแง่มุม แต่ที่เห็นชัดที่สุดคือ ให้คนในสังคมพัฒนาตนเองและสังคมนั้นต้องยอมรับด้วย หากสังคมเปลี่ยนแปลง สถานศึกษาไม่ปรับตัวเองตาม สังคมย่อมจะไม่ยอมรับ ส่งผลให้สถานศึกษามีผู้ไฝ่หาความรู้น้อยลง อนาคตก็ต้องถูกยุบตัวไป บางยุคบางสมัยสถานศึกษาต้องจ้างหรือติดสินบนให้คนในสังคมเข้ามาเรียนรู้ ในมุมกลับกันทำไมคนในสังคมหลายแห่งยอมจ่ายทรัพย์จำนวนมากเพื่อให้ลูก หลานได้เข้าสถานที่ศึกษานั้น เป็นเพราะสังคมยอมรับว่า เมื่อจบจากสถานที่นี้แล้ว ย่อมจะทำให้ลูก หลานมีอนาคตที่ดี  

          การศึกษาในสามจังหวัดชายแดนใต้มีความแตกต่างกับที่อื่น ในเขตอำเภอเมืองแบบหนึ่ง แต่เขตนอกเมือง เทศบาล ตำบลก็อีกอย่างหนึ่ง หากเราดูจากภายนอก โรงเรียนในสามจังหวัดชายแดนใต้แบ่งเป็นสองแบบ แบบที่หนึ่งโรงเรียนของรัฐทีมุ่งเน้นการเรียนการสอนแบบภาคส่วนกลาง ผู้ที่จบการศึกษาระดับมัธยมพอจะมีพื้นฐานศึกษาต่อในระดับอื่น หรือสามารถดำรงชีวิต ประกอบอาชีพได้บ้างในพื้นที่ ผลสำเร็จหรือเป้าหมายเพื่อศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา แบบที่สองกินพื้นที่กว้าง สังคมยอมรับได้มากกว่าคือโรงเรียนสอนศาสนาควบรวมสายสามัญ ความมุ่งหวังในผลสำเร็จต้องการมากกว่าแบบที่รัฐและคนภายนอกเห็นคือ คาดหวังให้ผู้ต้องการเรียนรู้ มีความสุขทั้งในโลกนี้และโลกภายหน้า  ทั้งสองแบบที่กล่าวข้างต้นเดินขนานกันมายาวนานเกือบหกสิบปี  

          การแบ่งแยกออกเป็นสองส่วนนี้ ทำให้เห็นจำนวนนักเรียนที่แตกต่างและยังส่งผลให้แบ่งแยกนักเรียนออกเป็นสองกลุ่มสองศาสนา ทั้งที่ครูผู้สอนไม่ได้คำนึงถึงศาสนาก็ตาม จำนวนโรงเรียนสอนสอนศาสนาแบบควบรวมสายสามัญดูจะมีน้อยกว่า แต่เมื่อหากเปรียเที่ยบจำนวนนักเรียนจะมากกว่าหลายเท่า  

          ในเขตนอกเมืองที่โรงเรียนใช้การเรียนการสอนแบบส่วนกลางที่รัฐจัดให้ ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนในตัวเมือง ไม่สามารถแย่งชิงนักเรียนได้ สาเหตุตัวนักเรียนไม่มีความพร้อมในการเรียน ด้วยปัจจัยทางสังคมและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเอง ยาเสพติด สิ่งยั่วยุต่างๆ นอกจากนี้นักเรียนและผู้ปกครองไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องแข็งขันหาความรู้เหมือนที่อื่นๆ จบการศึกาษาขั้นพื้นฐานออกมารับจ้าง กรีดยาง ทำสวน  บางคนที่โชคดีเรียนต่อระดับมัธยมเพราะมีรัฐอุดหนุน ความตั้งใจที่จะเรียนก็มีไม่มาก มีเด็กสิทธิพิเศษลูกหลานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้รับสิทธิไปเรียนโรงเรียนชื่อดังในต่างจังหวัด เทอมเดียวเท่านั้นก็เก็บเสื้อผ้ากลับมาเรียนต่อในจังหวัดของตัวเอง เพราะเรียนไม่ไหว เรียนตามเพื่อนไม่ทัน พ่อแม่อ้างว่า เด็กคิดถึงบ้าน ข้อแก้ตัวของคนในพื้นที่นั้นมีบ่อยครั้ง  

          หันกลับมามองโรงเรียนสอนศาสนานอกเขตอำเภอเมืองหลายโรงเรียนมีนักเรียนจำนวนมาก มีรถบัสรับส่งนักเรียนมากกว่าโรงเรียนสอนสามัญในเขตเมือง จำนวนนักเรียนสอนศาสนาในเขตเทศบาล ตำบล ความกระตือรือล้นหรือความอยากมาเรียนดูจะมากกว่านักเรียนในส่วนของสายสามัญแบบส่วนกลาง  จำนวนรถบัสที่ไม่เพียงพอ ยังมีรถกระบะเสริมอีกหลายคันรถบริการรับส่ง ในวันเสาร์ก็ยังเปิดสอนเพิ่มเติม เป้าหมายของการศึกษาแบบนี้มุ่งหวังให้ผู้เรียนมีความสุขในชีวิตปัจจุบันและโลกภายหน้า ตามความเชื่อถือหลักศาสนา

สงครามทางการศึกษา

ระหว่างโรงเรียนสอนศาสนากับโรงเรียนสอนสายสามัญแบบส่วนกลาง

         คนทั่วไปมองว่าโรงเรียนสอนศาสนาแบบควบรวมสายสามัญ ไม่เอื้อประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพหลังจบการศึกษา มุมมองนี้เป็นข้อขัดแย้งกับการยอมรับของคนส่วนใหญ่ในสังคมเขตรอบนอก เป็นที่น่าแปลกมากที่ปริมาณนักเรียนโรงเรียนสอนศาสนาแบบควบรวมกลับเพิ่มขึ้นทุกปี มีการตั้งคำถามข้อสงสัยว่า มันไม่ผิดที่คนในสามจังหวัดชายแดนใต้สร้างการศึกษาของตัวเองขึ้นมาตรงกับความหมาย ตอบสนองสังคม วัฒนธรรมความเป็นอยู่ ทุกภาคส่วนและทุกหน่วยงานไม่ควรมีความคิดที่เป็นอคติ มุมลบจนมากเกินไป ผลสำเร็จที่ได้จากการศึกษาในสองรูปแบบจะออกมาให้เห็นภายหลังประชาคมอาเซียนเป็นหนึ่งเดียวกัน

             ไม่น่าจะมีการโจมตีผู้ต้องการส่งเด็กนักเรียนเข้ารับความรู้ในโรงเรียนทั้งสองแบบนี้  เพราะจะส่งผลเสียอื่นๆตามมาในภายหลัง  ยกตัวอย่าง การเอาชนะเอาความพ่ายแพ้กันด้วยชีวิตของผู้ให้ความรู้เป็นที่ตั้ง น่าจะปล่อยให้สู้กันด้วยการแข่งขันตามที่สังคมรอบด้านยอมรับเหมือนกับที่อื่นๆกำลังทำ ความสำเร็จขั้นสุดท้าย การปล่อยให้การศึกษาทั้งสองแบบแยกตัวไปเป็นอิสระ ไม่มีการอุดหนุนเงิน ไม่มีเด็กสิทธิพิเศษ  และข้อพิเศษใดๆ

             การนำเสนอข้างต้นของข้าพเจ้าไม่มีการลอกเลี่ยนแบบ หรือนำข้อมูลใดมาเป็นแบบอย่าง  ได้เขียนขึ้นตามความจริงที่ได้เห็น และผ่านประสบการณ์การใช้ชีวิตในดินแดนแห่งนี้ ผู้อ่านสามารถโต้แย้งคัดค้านได้ตามทัศนคติของท่าน  แต่หากท่านใดทำเรื่องโดยยื่นเป็นหนังสือกล่าวหาว่า ผู้เขียนไม่เคยผ่านประสบการณ์การใช้ชีวิตในสามจังหวัดชายแดนใต้ สามารถสืบความได้จากบุคคลที่สาม ผู้โต้แย้งด้วยหนังสือจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และอื่นๆ