Asian Stamp Rare

Friday, 1 June 2012

กริชมัสสุหรี ตอนบุพเพสันนิวาส2 เธอเป็นคนนอก มันผิดด้วยหรือ

                               บุพเพสันนิวาส 2 ข้อ

                                เธอเป็นคนนอก 

                                 มันผิดด้วยหรือ

             ครั้งแรกที่ผมเข้าใจความหมายของความรัก และผูกพันธ์ ในวันที่รับปริญญา ผมและพี่สาวได้นั่งอยู่ริมฝั่งคลองใต้ต้นสนในมหาวิทยาลัยในภาคใต้ น่าจะเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดแทนที่จะเป็นวันที่ดีของผม คำถามที่พี่สาวตั้งโจทย์ออกมา ทำไมต้องหางานทำ มีแต่คนอยากได้กิจการของน้าสาวใหญ่ น้องพี่เป็นคนโปรดปราน ได้รับกิจการต่อแน่นอน แม้แต่ลูกบุญธรรมของน้าสาวใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้รับมัน  น้องน่าจะดำเนินกิจการต่อเพราะน้าสาวใหญ่อายุมากแล้ว ถ้าหากรับมาก็ทำกินได้ไปจนแก่ ผมรีบชิงคำตอบทันที ผมต้องยอมรับที่ต้องเลือกผู้หญิงเป็นภรรยาตามที่ผู้ใหญ่เห็นดีเห็นงาม ต้องมีแม่ยายที่เจ้ากี้เจ้าการ พวกพี่ๆส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะพอใจว่าที่ไม่ยาย ผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน 

              น้าสาวใหญ่และคนแก่คาดหวังคนในเชื้้อสาย ช่วงที่น้องชายพี่ยังเด็ก การถ่ายรูปที่หน้าบ้าน เจริญกรุงไว้เป็นหลักฐาน พี่สาวยังยืนฟังผู้ใหญ่คุยกัน มีแม่และพ่ออยู่ด้วย ถึงสองคนจะไม่มีชีวิตอยู่ขณะนี้ ก็ยังมีอีกหลายคนเป็นพยาน ตอนนี้น้องชายพี่คงจะรู้เรื่องแล้วใช่ไหม พี่ได้ข่าวว่า ทางฝ่ายโน้นมาเวียนที่บ้านบ่อยครั้งมากขึ้นหลังจากเรียนจบแล้ว หลังจากถ่ายรูปเมื่อสมัยผมยังเด็กๆเรียบร้อย พี่สาวคนนี้ดึงตัวน้องชายที่ยังเล็กอายุประมาณสักสามขวบกว่าไปนอนบนตัก แล้วใช้นิ้วตวัดขนตาที่งอนยาวของผมพร้อมกับยิ้มๆ  สมัยผมเด็กและยังเล็กมักจะถูกพี่ๆเรียกไปตวัดขนตาที่งอนยาวเป็นประจำ  กิจการทางฝ่ายหญิงก็มี แต่ขาดคนช่วยสานต่อ ทางโน้นก็ตั้งใจเลือกน้องชายพี่มาตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่หลายฝ่ายก็ยอมรับ ตกลงกันว่า ถ้าน้องชายพี่เรียนจบแล้ว แต่งงานกันได้ หรือจะหมั่นไว้ก่อน  คาดหวังจะได้ลูกสะไภ้ไว้ดูแลตอนแก่เฒ่า บ้านเราก็มีแต่คนโสดเสียส่วนใหญ่  ที่แต่งงานแล้วสามคนก็ทำให้คนแก่และน้าสาวใหญ่ผิดหวัง ทุกคนมองเห็นแต่น้องชายคนนี้  ผมรู้ว่าวันนี้เป็นวันดีสำหรับคนแก่และพี่สาวที่อยู่กรุงเทพฯ 

             พี่สาวของผมหยุดถักเสื้้อในมือแล้วมองสายตาของผมซึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นสน พี่สาวรับราชการทางสงขลา ว่าที่แม่ยายฝ้ายทางโน้นก็โทรมาถามช่วงที่เรียนว่าน้องชายพี่อยู่สบายดี ไม่ลำบาก ปลอดภัย ท่าทางจะเป็นห่วงที่สุดละ  ยังถามว่าใครเป็นคนสนับสนุนให้มาเรียนทางนี้ เขาน่าจะรู้ดีกว่าพี่ซะอีก ตัวพี่อยู่ต่างจังหวัด กลายเป็นคนไกล คงจะแกล้งมาถามพี่ ที่ถามบ่อยปิดท้ายก่อนวางหูโทรศัพท์ ก็เป็นจะเรื่องน้องชายพี่ติดสาวไหนบ้าง พี่ก็ตอบไปว่าไม่เห็นมีสาวมาติดเลย ขนาดยอมเสียค่าโทรศัพท์หลายสตางค์ วันนี้น้องชายเรียนจบแล้วได้รับปริญญา พี่คงจะได้รับโทรศัพท์จากกรุงเทพฯน้อยลง น้องชายน่าจะเข้าใจพี่ที่ต้องรายงานข่าวเป็นประจำ ผมก็ได้แต่ก้มหน้ามองที่คลอง  ผมพูดเพียงเล็กน้อยว่า พี่สาวของผมก็เป็นฝ่ายของเขา ต้องคอยช่วยสนับสนุนแน่นอน เท่าที่ผมรู้ วิชาการที่พี่สาวสอนเด็กนักเรียนทุกวันนี้ มันน่าเกี่ยวโยงกับธุรกิจว่าที่แม่ยายทำอยู่ เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขุ่ย  วันที่พี่เกษียณอายุราชการ คงจะต้องถูกจองตัวไปช่วยเขา  

           ผมบอกพี่ตรงๆไม่ต้องอ้อมค้อมว่า ตัวผู้หญิงไม่มีปัญหา แต่ที่มีปัญหามาก เห็นจะเป็นเครือญาติที่เกือบทุกคนเป็นคนเจ้ากี่เจ้าการ น่ารำคานใจ อีกอย่างหนึ่งก็เรืองอาหารการกิน พี่ก็รู้ว่า ผมรับประทานไม่ลง รสชาดบอกไม่ถูก พี่สาวของผมหัวเราะ เรื่องที่ดูเครียดก็เบาลง  ทุกครั้งที่กลับถึงบ้านเรา แทบจะอาเจียนออกมา พี่อย่าพูดหรือรายงานไป รู้ไว้แค่นี้ ความรู้สึกที่ผมได้เห็นผู้หญิงมาตั้งแต่เล็กจนโต เห็นกันบ่อย มันเหมือนจะทำให้น่าเบื่อเร็วขึ้น ทำไมเรื่องทั้งหมดต้องเป็นผม คนอื่นๆไม่เลือกจับจอง มีคนต้องมากมายก่ายกอง น้องชายพี่สรุปว่า เครือญาติฝ่ายจีนบ่าบ๋า เป็นคนที่ถูกใจ ชอบหม๋วยใช่ไหม พี่จะได้บอกผู้ใหญ่ที่กรุงเทพฯ ว่าที่แม่ยายฝ่ายจีนก็ดูดี มีอะไรที่ไม่ถูกใจไหม หรือเรื่องที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กตั้งแต่เล็ก ผู้หญิงก็ดูเรียบร้อยแบบไทยแท้ แต่หน้าตาเท่านั้นที่มาทางหม๋วย น่าจะเข้ากับพี่ๆได้หลายคนเพราะพี่ๆเราก็หน้าตาจีนหลายคน ยิ่งเป็นลูกสาวหม๋วยคนเดียวโดดๆ ฝ่ายสนับสนุนทางพี่ๆก็มีมากอยู่นะ 

            ทันใดนั้น เพื่อนสาวคนแรกในชุดครุยรับปริญญาเดินมาตรงที่ผมและพี่สาวที่กำลังนั่งคุยกัน เธอเปล่งเสียงเรียกชื่อผม ขอถ่ายรูปร่วมกับผม พี่สาวของผมวางเข็มถัก และเสื้อที่ยังถักไม่ถึงครึ่งตัวลงด้วยความรู้สึกที่ผมบอกไม่ถูก อธิบาย บรรยายการจ้องมองของพี่สาวที่พุ่งสายตาตรงไปที่เพื่อนสาวชุดครุยสีเข้ม อาการสอดสายตาดูของพี่สาวจะมึน งง อยู่สักพักหนึ่ง แต่พี่สาวผมก็ยิ้มให้เพื่อนสาว ท่าทางเริ่มสงสัยตัวผมและเพื่อนสาวคนนี้เข้าแล้ว ผมแนะนำเธอให้รู้จักกับพี่สาว ความจริงก่อนหน้านี้พี่สาวผมก็เคยเห็นเธอกับผมที่สงขลา  ผมชวนพี่สาวถ่ายรูปด้วย แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากพี่สาว อ้างว่าไม่ไหวจะลุกขึ้น เริ่มที่ผมจะสงสัย ทำไมไม่ถ่ายรูปด้วย หลังจากนั้นผมถอดชุดครุยออกวางลงใกล้พี่สาว ขอตัวไปหาเพื่อนๆ พี่สาวพูดแบบกระซิบเบาๆ ดูมันมีความหมายที่สุดที่ถ่ายรูปชุดครุยรับปริญญาเฉพาะคู่กันสองคนนี้เท่านั้น เสร็จงานแล้วพี่กับน้องชายต้องมีเรื่องคุยกับพี่ สำคัญมาก หน้าตาของพี่สาวผมเปลี่ยนสีทันที แต่ก็อดทนยิ้มให้กับเพื่อนสาว 

             ผมจำไม่ผิดคนแรกที่ผมรักและผูกพันธ์ ยืนถ่ายรูปอยู่ใต้ต้นไม้ริมคลองใต้ต้นสน แต่ผมจำไม่ได้ว่าเธอยืนทางซ้ายและขวามือของผม แต่ขวามือของผมมากกว่าหากจำไม่ผิดพลาด เพราะหลังจากนั้นต่อมา มีหลายคนมักจะเห็นผมเดินคู่กับผู้หญิง มีคนชอบถามว่าแต่งงานแล้วไม่บอก ผมรีบปฏิเสธ เรื่องนี้เข้าหูคนแก่หลายคน ร่างเงาของผู้หญิงเริ่มติดตัวผม เป็นครั้งที่สองของบุพเพสันนิวาส ค่ำของวันเสร็จสิ้นรับปริญญา ก่อนที่จะส่งพี่สาวขึ้นรถกลับสงขลา สีหน้าของพี่ดูเคร่งเครียด และพูดอย่างจริงจัง เรื่องที่เราสองพี่น้องคุยกัน ดูจะไม่มีความหมาย ที่ผมบ่ายเบี่ยง ไม่เลือกผู้หญิงคู่ครองภายในเชิ้อสายเดียวกันตามที่พ่อแม่ และคนแก่ต้องการ สาเหตุมาจากน้องชายของพี่ กำลังจะเลือกสาวคนที่ถ่ายรูปครุยปริญญาคู่กัน พี่สังหรใจไม่ผิด วันก่อนพามาไหวพี่ใช่หรือไม่ ผมไม่กล้าเล่าให้พี่สาวรู้เรื่อง ปานสีดำรูปหัวใจประกายสีเข้มเมื่อผมได้พบเธอครั้งแรก ถือเป็น ครั้งแรกของบุพเพสันนิวาส พี่สาวผมรู้ว่าผมมีปานรูปหัวใจสีดำ หากเล่าไปก็คงจะไม่เชื่อ คงถือเป็นเรื่องไร้สาระสู้เก็บไว้ในส่วนลึกที่บอกใคร ก็ไม่มีใครเชื่อ ความหมายของบุพเพสันนิวาสนั้นหลายคนเข้าใจความหมายที่ผิดพลาด มีจำนวนมากที่นึกคิดความหมายตามที่เพลง ซึ่งร้องกันจนโด่งดัง สำหรับความคิดของผม ความหมาย บุพเพสันนิวาส มีความหมายที่ศาสนาพุทธได้ขยายความเป็นสองข้อใหญ่   

            มันถึงเวลาที่ผมจะบอกความในใจกับพี่สาว ทำไมผมไม่สิทธิที่จะเลือกผู้หญิงชาวบ้านธรรมดา ที่ไม่ใช่คนในเชื้อสาย ไม่มีธุรกิจอยู่เบื้องหลัง พี่ของผมทำได้ อิสระ มีคนตำนิ สักพักเรื่องก็หายไป ถึงแม้ผมเลือกแล้วมันทำให้ชีวิตของผมล้มลุกคลุกคลานกับคนที่ผมรัก และผูกพันธ์ เธอคนนี้ดูไปแล้วอาจจะดูไม่ดี หรือพี่ๆอาจจะเปรียบเที่ยบว่า ไม่มีราศี ไม่มีเสน่ แต่ส่วนลึก

         ครั้งหนึ่งของชีวิต  http://www.yo    utube.com/watch?feature=player_detailpage&v=EYy2uVSYswQ#t=135s

 http://www.youtube.com/watch?

ผมมั่นใจว่า เธอกำลังตามมาช่วยเหลือผมตลอดเวลาและจะบอกผมอะไรบางอย่างซึ่งผมเองก็ยังมองอนาคตข้างหน้าไม่ออก  

            ฉันขอบอกน้องชายพี่ว่า ทุกคนที่ได้อิสระในความรักอย่างที่น้องว่ามา ความจริงก็ยังต้องพึ่งพาทางน้าสาวใหญ่ พ่อ แม่และสมบัติเก่า ไม่มีใครพ้นมือหรืออิสระอย่างแท้จริง บทเรียนหลายคนทำให้คิดกันว่า คนต่อไปที่จะแยกตัวออกไป ต้องรู้ว่า หัวนอนปลายเท้ามาจากไหน ลูกเต้าเหล่าใคร ไม่ใช่มากัดเกลือกิน สองคนผัวเมียรับราชการทั้งคู่ยังไม่พอใช้  แล้วมายืนมือมาขอทางบ้านช่วยเหลือ พี่ขอร้องได้ไหม ถ้าหากสองคนยังคงวนเวียนอยู่ที่นี้ พี่เดือดร้อนแน่นอน เข้าใจซิว่า พี่กับสามีรับราชการที่นี้ ทางโน้นคิดว่าพี่ให้ท้ายน้องชายของพี่ อย่างหนึ่งเด็กสาวคนนี้ ไม่มีทางจะสู้รบตบมือกับทางฝ่ายโน้น ต้องโดนรังควานรังแกทางจิตใจหลายอย่าง ความสุขต้องได้รับทั้งคู่ เธอกลับได้รับคนเดียวเท่านั้น ความเก่งของเด็กสาวคนนี้มีอยู่ในตัวเอง เป็นสิ่งที่พี่มองไม่ผิด เพราะรู้ใจน้องชายของพี่ดี กลับบ้านกรุงเทพฯแล้วเก็บเธอไว้ในดวงใจของน้อง อย่าได้พาหญิงคนนี้ไปไหวน้าสาวใหญ่เด็ดขาด เรื่องมันจะโกลาหลสะเทือนใจหลายฝ่าย ที่สำคัญที่สุด สายเครือญาติแตกร้าว รอยร้าวนี้ยากที่จะประสาน จะคิดหนีไปต่างประเทศนะหรือ ฝ่ายโน้นเขาก็มีทุนที่จะตามน้องไป เก็บความรักของน้องพี่กับหญิงสาวคนนี้ไว้ในดวงใจ 

Drem lover http://www.youtube.com/watch?    

            ชีวิตคู่ก็เหมือนกับการช่วยกันชำระเวรกรรมที่เคยทำกันมา หากยิ่งอยู่กันยาวนาน ก็ย่อมหมายถึง ทั้งคู่มีเวรกรรมซึ่งกันและกันที่มากขึ้น

           เครือญาติของผมต้องการให้ผมคนเดียวเท่านั้นที่แต่งงานกับคนในเชื้อสาย ที่ยากจะเห็นผมคอยช่วยชำระเวรกรรมของเชื้อสายที่เคยทำมาก่อนหน้า หลังจากผมเลือกใคร ย่อมหมายถึงกรรมที่ผมต้องรับต่อไปคือ คอยดูแลกิจการ ธุรกิจทั้งทางซ้ายของฝ่ายหญิงและทั้งขวาของทางบ้านผมเอง หลังจากเดินทางกลับจากการรับปริญญา ผมกำรูปถ่ายคู่ไว้ไม่ให้หายหรือห่างไกลตัว เก็บซ่อนมันไว้ในห้องที่บ้านแม่ใหญ่หรือน้าสาวใหญ่ซึ่งเป็นเรือนไม้เก่า มีความรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนพิเศษสำหรับผม ต่อมาไม่นานเธอก็ยังช่วยผมอีกเป็นครั้งต่อไปโดยที่เธอไม่รู้เรื่องราวใดๆ ว่าที่แม่ยายทั้งสองฝ่ายเรียกผมและผู้ใหญ่เพื่อยื่นยัน ผมต้องแต่งงานตามสัญญา หากผมปฏิเสธการแต่งงาน ก็ต้องไม่มีผู้หญิงที่หาดใหญ่ด้วย มันแสดงเห็นว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องมีใครแกะรอยติดตามผม เพราะผมแวะไปหาเพื่อนสาว เธอมาจากหาดใหญ่ วันนั้นยังจำได้ว่า ขอแม่ใหญ่ไม่ไปส่งของ ติดธุระสำคัญ ผมจะไม่เคยปฏิเสธเรื่องงานที่บ้านแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าเสร็จจากงานแล้วค่อยไปต่อก็ได้ แต่ความที่ตัวเราดีใจและคิดถึงจนเกินไป ที่นานแล้วไม่พบเธอ 

            เรื่องแต่งงานยุติได้พักยาวต่อไปอีกห้าปี เธอได้ช่วยเหลือผมอย่างใหญ่หลวง ครั้งนี้เป็น บุพเพสันนิวาส ข้อที่สอง คือเคยอยู่กันมาแต่ภพที่แล้ว เมื่อสองพันกว่าปี ตถาคต อธิบายว่า หญิงหรือชายที่เป็นบุพเพสันนิวาสกันแต่ภพก่อน ถ้าหากติดตามมาช่วยเหลือกันในภพต่อไปอีก มันจะเรียกว่า บุพเพสันนิวาส ถึงแม้ทั้งคู่จะไม่ได้ใช้ชีวิตคู่กันในปัจจุบัน หากเป็นเพราะเคยอยู่ร่วมกันมาแต่ปางก่อน ผมมีความพยายามที่จะไม่กลับบ้านค่ำเพราะกลัวที่จะพบกับว่าที่แม่ยายและลูกสาว มีน้อยครั้งที่ได้พบกัน เวลาของผมใช้กับทำงานเป็นลูกจ้าง หลังจากนั้นก็มาทำงานให้กับทางบ้าน ค่ำลงก็เมาเหล้าจนดึก มีเจ้าเด็กสาวจากต่างจังหวัดที่ทางบ้านรับอุปการะ มาเรียนอยู่ใกล้บ้าน ห้องที่บ้านชั้นบนมีอยู่แปดห้อง ไม่ค่อยจะมีใครอยู่เพราะไปซื้อบ้านแยกกันไป แม่ครัวก็ลาออกไปเปิดร้านอาหารโดยนำความรู้จากที่บ้านไปใช้ เจ้าเด็กสาวเรียนอยู่โรงเรียนพาณิชย์คอยเป็นต้นห้อง สอดส่อง สืบความลับให้กับหลายฝ่าย ผมสั่งห้ามไม่ให้เช็ดรูปภาพสองรูป ผมดูแลมันเอง ช่วงแรกเด็กสาวไม่รู้เรื่องราวภายในเท่าไร มีหน้าที่รายงานข่าวอย่างเดียว ถือว่าตัวเองได้เงินตอบแทนจากหลายฝ่าย มาระยะหลังๆเด็กสาวเริ่มรู้เรื่องทั้งหมด ถ้าหากค่ำวันใดว่าที่แม่ยายและลูกสาวมาที่บ้าน เด็กสาวสายลับจะเตรียมลูกกุญแจรถเปลี่ยนรถยนตร์ให้ผมขับออกไป หลายครั้งที่หนีไปหลบที่อ่างทอง อยุธยา สระบุรี ถ้ามีวันหยุดหลายวันติดต่อกัน ทุกปีผมจะขับรถคนเดียวไปเที่ยวที่สงขลา หาดใหญ่ แวะหาเพื่อนที่สมัยเรียนด้วยกัน เรื่องความผูกพันธ์กับเพื่อนสาวหาดใหญ่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ 

           ผมมักจะเข้าไปเที่ยวที่หาดใหญ่ หวังว่าสักวันหนึ่งจะได้พบเธอที่บ้าน มันไม่สามารถจะค้นหาบ้านของเธอได้ เสมือนมีบางอย่างมาปิดบังสายตา อาจจะเป็นเพราะผมกลัวพี่สาวที่สงขลาจะรู้เรื่องและคอยติดตาม ความลับของผมไม่มีในโลกนี้ มีอยู่วันหนึ่งได้พบเพื่อนชายบ้านเกิดเป็นคนนครศรีธรรมราช เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ นั่งดื่มสุราคุยกันหลายเรื่อง เพื่อนของผมคนนี้บอกว่า คนที่หาดใหญ่ฝากความคิดถึง และคิดถึงมาก ผมแกล้งเสแสร้ง ตอบรับเบาๆ แล้วก็คุยกันเรื่องอื่น สังเกตุสายตาเพื่อนของผมคนนี้อาจจะรู้เรื่องที่ผมและเธอ มีความผูกพันธ์และรักกันอย่างเงียบๆ ความในใจผมมันทุกข์ทรมาน ถึงจะเมาเหล้าเสียสติเพียงใด ผมก็ขอเก็บข้อสัญญาที่ว่า ถ้าไม่เลือกที่แต่งงานกับสายเครือญาติ คนที่หาดใหญ่ก็ไม่มีสิทธิ เล่าเรื่องนี้ไปมันช้ำใจเรามาก สามสิบกว่าปีที่ผ่านมาจนกระทั่งวันนี้ บุพเพสันนิวาส ข้อที่สอง มันยังเป็นความลับระหว่างผมกับเพื่อนรักที่สุดคนหนึ่งที่อยู่ในใจผม ถ้าหากวันหนึ่งได้พบกันมีโอกาสจะได้เล่าเรื่องทีเธอคอยช่วยเหลือผมหลายอย่าง ที่สำคัญมากคือ เราได้เป็นแค่เพื่อนรักที่สุดคนหนึ่งที่อยู่ในใจผมตลอดชีวิตชั่วนิรันดร 

          วิงวอนให้พระเจ้าและมนตราใดๆ จงสะท้อนกลับ บุพเพสันนิวาส ของเราทั้งสอง ตลอดไป 

             

No comments:

Post a Comment