สินค้าไม้หอมของไทยถูกแขก และองค์กรต่างประเทศหลอกลวง
เมื่อสมัยสุโขทัยของไทยเรา ความหอมจาการเผาไม้จันทร์ในเมืองไม่เป็นที่ต้องการพ่อค้าชาวจีนเท่าไรนัก มาสมัยอยุธยาและสมัยรัตนโกสินทร์เริ่มเห็นความสำคัญของไม้หอมหรือไม้กฤษณา จำนวนไม้หอมไม่มาก แต่รายได้กับสูงกว่าสินค้าอื่นๆ พ่อค้าชาวอาหรับ ฝรั่ง และชาวจีนต่างแย่งกันซื้อ ทำให้กลายเป็นเมืองแห่งความหอมจากไม้กฤษณา แต่แล้วไม่ห่างกันนัก เมืองแห่งความหอมของไม้กฤษณาก็ย้ายไปยังประเทศใกล้เคียงอื่นๆ สาเหตุคงจะไม่กล่าวให้ท่านทราบ เพราะประวัติศาสตร์เดิมของไทยไม่กล้าหาญที่จะบอกความจริง
ปัจจุบันนี้สินค้าไม้หอมหรือไม้กฤษณาก็ยังเป็นสินค้าที่คนไทยยังถูก แขก และองค์กรต่างประเทศหลอกลวงพราง โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐและนักวิชาการ นักวิจัย ช่วยกันทำลายสินค้าตัวนี้ สาเหตุมาจากความเข้าใจที่ผิดหรืออาจจะแกล้ง เสแสร้ง ยอมรับโดยสมยอมว่า การบังเกิดไม้หอมกฤษณาได้ในเนื้อไม้ที่มีคุณค่าราคาแพงต้องมาจากป่าธรรมชาติเพียงอย่างเดียว สุดท้ายประเทศไทยไม่มีวันใดที่พัฒนาอุตสาหกรรมนวดแผนไทยและสปาให้เจริญและมีมูลค่า
ก่อนอื่นท่านต้องเข้าใจว่า สินค้าไม้หอมกฤษณาที่พ่อค้าต้องการไม้ ได้มาจาการเกิดจากธรรมชาติในป่าเท่านั้น เจ้าหน้าที่รัฐ นักวิชาการ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ นักวิจัย เข้าใจที่ผิดพลาดอย่างมาก ไม้หอมทุกสถานที่สามารถเกิดความหอมได้ทุกกรณี ทุกสถานที่ในประเทศไทย การเกิดภัยธรรมชาติในปัจจุบันเกิดอยู่ตลอดเวลา เช่นแผ่นดินไหว แรงลม พายุ กิ่งไม้ตกกระแทก สัตว์และมนุษย์ช่วยเหลือให้เกิดแรง
หากไม่มีภัยภิบัติ อันเกิดแรงกระทบกับไม้หอมกฤษณา ไม้จะไม่มีมูลค่าหรือความหอมเลยแม้แต่น้อยนิด มูลค่าที่ต่ำทีสุดของไม้หอมกฤษณายอมรับว่ามนุษย์ทำขึ้น กรณีหลังนี้มันไม่ยากที่จะตรวจสอบ เพราะเนื้อไม้หอมกฤษณา จะบ่งชี้ได้ด้วยความแตกต่างกัน พ่อค้าปัจจุบันสามารถแยกได้ มองได้ออก
การเหมารวมตีความเมื่อใดก็ตามที่พบไม้หอมในรูปแบบเดียวกับในป่าที่มีมูลค่า มีการจับกุม เพื่อหวังรางวัล เป็นบ่อเกิดที่ทำให้ไม้หอมกฤษณาซึ่งปลูกได้ยาก กลายเป็นสินค้าของไทยที่คนไทยโดยคนไทยฆ่ากันตายตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน มันฆ่ากันอย่างไรหรือ
หลังจากเจ้าหน้าที่รัฐนำของกลางของประชาชนออกจำหน่าย มูลค่ามหาศาลกับไปตกถึงมือพ่อค้าแขก กำไรมหาศาลแลกกับการซื้อมาในราคาต่ำ พ่อค้าแขกนำไปจำหน่ายต่อให้ชาวฝรั่งเจ้าขององค์กรระหว่างประเทศ ที่อ้างตัวอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อนำไปสกัดตัวยา และอุสาหกรรมอีกมากมาย ประเทศไทยของเราตอนนี้ไม่มีสินค้าไม้หอมกฤษณาที่จะเพียงพอในการเป็นคลังสำรอง สำหรับการสกัดเพื่อผลิตยา น้ำหอม และอื่นๆ
ในกลุ่มประเทศอาเซี่ยน(AEC)ที่มีไม้หอมกฤษณา หลายประเทศเช่น เวียดนาม ลาว เขมร จีน ต่างช่วยกันผลิตอุตสาหกรรมที่ได้จากไม้หอมกฤษณา ส่งไปขายในต่างแดน กอบโกยคุณประโยชน์อันมหาศาลของไม้หอม เจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานของรัฐ ยังปฎิบัติตัวคล้อยตามเล่ห์กลแขก และองกรณ์ระหว่างประเทศของพวกฝรั่ง ประเทศไทยจะเสียผลประโยชน์ สายตาที่จะเห็นประโยชน์ของมัน กับสายเกินไปที่จะแก้ไข
เมื่อไม่นานมานี้ได้เห็นข่าวสาร การจับกุมของหน่วยงานคดีพิเศษ ในเรื่องของการจับกุมบริษัทต่างชาติที่ผลิตน้ำมันหอมระเหยในประเทศไทย หากหน่วยงานดังกล่าว ยังคิดว่าเป็นคดีทำธรรมดา ย่อมจะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมนวดและสปาของไทย นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับไม้หอมกฤษณา หลายประเทศกำลังหัวเราะชอบใจที่เจ้าหน้าที่ของรัฐในประเทศไทย ทำลายสมบัติธรรมชาติที่ล้ำค่า บางคนอาจจะไม่ตั้งใจ แต่บางคนได้รับข้อมูลมาจากพวกแขกที่ต้องการเห็น ประเทศไทยไม่ควรจะหอม หวานดังไม้หอมกฤษณา เจ้าหน้าที่รัฐของไทยเรา มีมุมมองเพียงด้านเดียว โลกทัศน์ก็แคบ น่าจะมีมุมมองบวก ลบด้วย
แนวทางแก้ปัญหา เจ้าหน้าที่รัฐของไทยต้องไปเห็นอุตสาหกรรมนี้ในต่างแดนหลายแห่ง จากกนั้นกลับมาดูภายในประเทศไทย ที่ไม่ไกล เวียดนาม และจีนเขาส่งผลิตภัณฑ์ที่ได้จากไม้หอมไปขายให้ในแทบอาหรับ ยุโรป และอเมริกา สิงคโปร์ไม่มีไม้หอมแม้สักต้น กลับกลายเป็นแหล่งขายไม้หอม น้ำหอม ทำการป้อนวัตถุดิบให้ประเทศอื่นๆ
แนวทางประการที่สอง คนไทยเรายังยอมรับงานวิจัยของพวก ดอกเตอร์ตามมหาวิทยาลัยมากกว่า รัฐไม่มีเงินอุดหนุนให้เกษตรกร ส่งงานวิจัย ต่อยอด มูลค่า ความจริงของการเกิดมูลค่าไม้หอมกฤษณาธรรมชาติในกิ่งไม้จึงไม่เกิดขึ้น ประเทศไทยต้องสูญเสียไม้ไปจำนวนมากมาย ไม่ว่าจะในอดีตจนถึงปัจจุบัน
ผมใช้เวลาสิบหกปีที่ต้องเก็บข้อมูล ทำอย่างไรจะเข้าถึงมูลค่าของกิ่งไม้หอมกฤษณาจากธรรมชาติภายในสวนซึ่งปลูกไว้ไม่น้อยกว่า 300 ต้น ขณะนี้ค้นพบวิธีการมองกิ่งไม้หอมกฤษณา กิ่งใดสามารถตัดมันลงมา แล้วได้มูลค่า กิ่งใดที่ยังไม่ได้มูลค่าก็สามารถรู้ทันที หลักการนี้ยังไม่มีใครทำงานทดลองชิ้นนี้มาก่อน ประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้นั้น ต้นไม้หนึ่งต้น สามารถให้ผลทางมูลค่าในทุกส่วน
หลายท่านตั้งคำถามเรื่องตลาดซื้อขายไม้หอมของบ้านเมืองของเรา มีนักวิชาการและผู้ยากรู้ข้อเท็จจริงว่า ผู้ซื้อไม้หอมต้องการไม้ชนิดไหน น้ำมันหอมกลิ่นแบบไหนที่ผู้ซื้อต้องการ เมื่อได้ข้อมูล ข้อเท็จจริงแล้วนำกลับมาเพื่อผลิตตามตลาดต้องการ เหตุผลข้อนี้ผมยอมรับได้ แต่ต้องฟังข้อโตแย้งของผมก่อนว่า ในตลาดซื้อขายในบ้านเราใครเป็นคนผูกขาดสินค้าไม้ในซอยนี้ ท่านไม่รู้แน่นอน ผู้ขายไม้หอมในซอยนี้ส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่มาจากหัวเมืองปักษ์ใต้ ธุรกิจที่ทำรายได้อยู่เบื้องหลังของการซื้อขายไม้หอมคือ การจัดทัวร์ การนำผู้คนไปประกอบฮัจยีในนครเม็กกะฮ์ สรุปให้ท่านได้เข้าใจ การจำหน่ายไม้หอมในบ้านเราตอนนี้ ตลาดใหญ่ของบ้านเราที่หลายคนเข้าใจ รัฐก็คิดว่าจำหน่ายได้ในปริมาณมาก มันผิดพลาด ไม่เป็นจริง
ตลาดใหญ่ค้าไม้หอมของบ้านเราไม่มีรายได้มากอย่างที่รัฐ นักวิชาการ ประชาชนทั่วไปเข้าใจ หากใครไม่เชื่อที่กล่าวมา ให้ไปนั่งเฝ้าดูในตลาดซื้อขายในบ้านเรา ตั้งแต่ค่ำจนถึงดึกของทุกคืน หาผู้ซื้อไม้หอมได้น้อยมาก บางท่านอาจจะโต้แย้งว่า ทางร้านมีคนส่งสินค้าถึงที่ให้กับลูกค้า มันเป็นความจริงที่มีไม่มาก รัฐถูกแขกหลอกลวง คนไทยถูกปล้นไม้หอมแบบเงียบและเนียนสนิท วิธีที่แขกทำเขาทำอย่างไร
พ่อค้าวานิชย์ ชาวอาหรับ จีน และอินเดีย ใช้หลักการมองไม้กฤษณาหรือไม้หอมที่เกิดขึ้นจากการกระทำของธรรมชาติได้อย่างไร คำตอบนี้ได้จมหายไปนานหลายร้อยปี ไม่มีใครสนใจในเรื่องนี้มากนัก แต่ชาวอาหรับยังเก็บข้อมูลนี้ไว้ เจ้าของประเทศที่มีไม้หอมไว้ในมือไม่เคยสนใจเสาะหาว่าทำไมไม้บางชิ้นมีราคาสูง วิธีการมองลักษณะไม้หอมที่มีการกระทำของธรรมชาติหรือบางครั้งเรียกอีกทางหนึ่งคือไม้ที่พระเจ้าให้มา จะต้องดูที่เส้นน้ำมันเดินเป็นทางยาวหรือสั้นก็ได้ แต่ถ้าหากสังเกตุไม้หอมที่มนุษย์จัดทำขึ้นให้ดูคล้ายคลึง เส้นน้ำมันบนเนื้อไม้หอมจะไม่เห็นเด่นชัด
เส้นน้ำมันบนเนื้อไม้กฤษณาที่วิ่งเป็นทางยาว แสดงถึงไม้หอมที่เกิดจากธรรมชาติกระทำ หรือที่เรียกว่า ไม้ที่พระเจ้าสร้าง
ปัจจุบันเราไม่มีโอกาสได้เห็นเนื้อไม้กฤษณาไม้หอมที่มีเส้นน้ำมันเดินบนเนื้อไม้ สืบเนืองมาจากสาเหตุุสิ่งแวดล้อมในป่าและสวนป่าไม่เอื้ออำนวยเหมือนกับสมัยก่อน ประกอบกับชาวอาหรับ ชาวตะวันตก และพ่อค้าดั่งเดิมสูญหายไปตามการเวลา ส่งผลให้พ่อค้าในระยะหลังต้องกำหนดกฏเกณฑ์เนื้อไม้หอมอีกรูปแบบหนึ่ง
No comments:
Post a Comment