Aquilaria crassna ไม้กฤษณาที่ได้จากการกระทำของธรรมชาติ
16 ปีที่ผมสลับทางเดินระหว่างชีวิตใจกลางตัวเมืองริมแม่น้ำเจ้าพระยากับการใช้ชีวิตเชิงเขาที่ห่างไกลเป็นพันกิโลเมตร
หลายท่านคงจะได้เคยเห็นร้านค้าที่ขายไม้หอมตามหัวเมืองต่างๆที่มีชาวต่างประเทศท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต หรือในต่างประเทศ มีหัวน้ำหอมตั้งประกอบร่วม บ่งบอกถึงต้นทางและปลายทางการผลิต ทุกอุตสาหกรรมของเครื่องอุปโภคที่ต้องเกี่ยวข้องกับกลิ่นหอม หากขาดส่วนผสมจากเครื่องหอมจากไม้หอม ความหอมก็จะลดลง ประโยชน์ที่ได้รับในส่วนอื่นๆก็ย่อมขาดหายไปอีก เช่น แมลงที่ตัวเล็กจนเราเห็นได้ยากนั้นไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ แมลงไรแดง แมลงตามทะเลทราย เกรงกลัวกลิ่น น้ำหอมจากไม้หอม
ในสมัยสุโขทัยประเทศไทยเป็นแผ่นดินของกลิ่นหอมจากจันทร์หอม พ่อค้าชาวจีนในสมัยราชวงศ์หมิงนำกองเรือเข้ามาแวะหลายครั้ง ขันทีแต้ฮั้ว(เจิ้งเหอ) ได้กลิ่นการเผาจันทร์หอมไปทั่วดินแดน แต่ไม่รับสินค้านี้ เพราะความหอมและประโยชน์ที่ได้รับสู้ไม้กฤษณา Aquilaria Crassna ไม่ได้เลย ต่อมาในสมัยอยุธยา รัตนโกสินทร์ เริ่มจะให้ความสำคัญกับสินค้าไม้หอม มีพ่อค้าหลายประเทศให้ราคากับไม้กฤษณาทีสูงมาก ทางการจึงออกกฎห้ามบุคคลใดค้า และมีไว้ส่วนตัว ในปัจจุบันนี้ราคาของไม้หอมก็ยังแพงกว่าทองคำ และของมีค่าสิ่งอื่นหลายเท่าตัว
Aquilaria Crassna ไม้หอมจากต้นกฤษณาแบบไหนที่มีราคาสูง เป็นที่ต้องการของคนทั่วโลก ในสมัยก่อนมีไม้เท่าไร ก็ไม่ต้องตรวจสอบเลยแม้แต่น้อย เหตุผลเพราะ ไม้หอมกฤษณามีธรรมชาติคอยช่วยเหลือเกิ้อกูล สภาพป่าไม้ที่ยังอุดมสมบูรณ์ ภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อมรอบด้าน สัตว์ป่าเล็กน้อยใหญ่ สนับสนุนให้ไม้หอมเกิดความหอมได้ทุกขณะ แม้แต่ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบนโลกเรา แผ่นดินไหว พายุรุนแรง ก็ยังเป็นส่วนช่วยเช่นกัน ปัจจุบันนี้ธรรมชาติที่กล่าวมาข้างต้นไม่อาจจะเกื้อหนุนต้นไม้หอมได้ ประกอบกับต้นไม้หอมมีจำนวนน้อยมากหรือแทบไม่เหลือให้เห็น
มีการปลูกไม้หอมชดใช้เพื่อการค้าที่ต้องลงทุนสูง ก็ไม่อาจจะทำได้ เพราะต้นไม้หอม Aquilaria Crassna ไม่เหมือนต้นไม้ชนิดอื่นๆที่จะขึ้นและเติบโตได้ง่ายๆ โอกาสที่ต้นไม้หอมมีเส้นรอบวงมากกว่าห้าสิบเซ็นติเมตร ค่อนข้างยากลำบาก ขั้นตอนที่ต้นไม้หอม เกิดมูลค่าเหมือนในสมัยก่อนก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ มีการนำหนทางการคิดค้นของมนุษย์โดยการเรียนแบบธรรมชาติ ทำให้ต้นไม้หอมเกิดมูลค่า ก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับธรรมชาติกระทำให้เกิดมูลค่าได้
มีอาจารย์นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย นำเสนอข้อมูลไม้กฤษณาหลายอย่าง โดยเข้าไปขอข้อมูลไม้หอมจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ นายพรานป่า ชาวบ้าน แต่ก็ไม่อาจจะเห็นภาพองค์ประกอบที่แท้จริง แสดงเป็นผู้รู้ เขียนตำรา ได้ผลงานทางวิชาการ มีนักธุรกิจ ประชาชนร่วมทุนปลูกต้นไม้หอมจำนวนมาก ผลสุดท้าย น่าจะได้ผลที่ไม่คุ้มทุนที่ลงไป
16 ปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอาสสลับการดำเนินชีวิตครึ่งหนึ่งของปีจากใจกลางเมืองริมแม่น้ำกับ ครึ่งหนึ่งของปี ดำเนินชีวิตด้วยการปลูกไม้หอมในเขตเชิงเขาใกล้เคียงติดป่าวนอุทยานซึ่งอยู่ห่างไกลไปทางใต้ระยะทางพันกิโลเมตร
หลายสิ่งที่ได้จากประสบการณ์จริงในการปลูกต้นไม้หอม เห็นของจริงที่ธรรมชาติสร้างไม้หอมที่มีค่า คล้ายกับตัวผมเดินทางกลับไปในสมัยกรุงศรีอยุธยา รัตนโกสินทร์ตอนต้น ความแตกต่างของไม้หอมที่มนุษย์เรียนแบบธรรมชาติ มันไม่เหมือนไม้หอมที่ธรรมชาติกระทำ กว่าจะได้วิชาAquilaria Crassnaนี้มา ผมต้องรับความทุกข์ทรมานมากกว่า นายพราน เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทุกฝีก้าวการดำเนินชีวิตของผม ช่วงเช้า มียุงล้อมรอยตัว ตัวทากดูดเลือดบนพื้นหญ้า งูกัปปะสามเหลี่ยม หากถูกกัดก็ยากจะรักษา งูเหลือมและงูอีกหลายชนิดที่มีขนาดใหญ่และยาว น้ำหนักของมันต้องใช้คนแบกมากกว่าห้าคน ในยามค่ำคืนจนถึงรุ่งเช้า มีแต่ความหนาว เย็น เวลานอนร่างกายก็ต้องนอนในลักษณะหลับเหมือนคนตาย
วิชา Aquilaria Crassna ไม้หอมกฤษณา 16 ปีที่ผมได้รับ การปลูกจนถึงมีผล มีดอก มีต้นไม้หอมขนาด 100 ซม. ความรู้มูลค่าของไม้หอมจากธรรมชาติจริงแตกต่างกับที่มนุษย์เรียนแบบธรรมชาติ ได้เห็นและรู้จริงว่า ธรรมชาติสร้างไม้หอมอย่างไร และที่สำคัญที่สุดของวิชานี้ คือการเรียนรู้กิ่งไม้ของต้นไม้หอมที่มีมูลค่า กับกิ่งไม้ของต้นไม้หอมที่ไม่มีมูลค่า
วิชาการมองกิ่งไม้หอมว่ามีมูลค่าทางธรรมชาติ มีหลักการดูหลายอย่าง หากมีความชำนาญก็สามารถตัดสินใจได้ มีความมั่นใจที่จะตัดกิ่งไม้
วิชาการมองเส้นน้ำมันบนเนื้อไม้ หากเป็นไม้หอมที่เกิดจากการกระทำของธรรมชาติหรือที่เรียกกันว่าได้ไม้หอมธรรมชาติ ในเนื้อไม้จะมีเส้นน้ำมันไหลเป็นเส้น ดังตัวอย่าง
No comments:
Post a Comment